ดร.ธนพร ชี้ผลโพล ‘มติชน-เดลินิวส์’ ก้าวไกล นำ เพื่อไทย เพราะผู้สมัครขี้เกียจลงพื้นที่ อาศัยดึงแกนนำลงพื้นที่จัดเวทีปราศรัยแล้วจบ
16 เม.ย. 2566 – ดร.ธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลเลือกตั้ง 66 “มติชน x เดลินิวส์” หัวข้อสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี และสนับสนุนพรรคการเมืองใด
นายธนพร กล่าวว่า โพลของ “มติชน x เดลินิวส์” มีจำนวนคนที่เข้ามาโหวตเยอะ คือ 8 หมื่นกว่าคน ทำให้เห็นแนวโน้มการลงคะแนนได้เลย ในแง่ของผลโพลส่วนตัวบุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยคงต้องหนักใจ เพราะไป ๆ มา ๆ แลนด์สไลด์จะเกิดกับพรรคก้าวไกลแทน
วันนี้คนในสังคมจำนวนมาก คิดว่าข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยยังไม่แรงพอ ถ้าทำแบบที่พรรคเพื่อไทยเสนอ จะได้แค่การประนีประนอม แต่วันนี้เราต้องเข้าใจว่าความคาดหวังคนจำนวนมาก ต้องการเปลี่ยนมากกว่าการประนีประนอม คำว่าเปลี่ยนหมายถึงระบบราชการ อุปสรรคในการทำมาหากิน การเปลี่ยนระบบเรื่องตั๋วช้าง การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร เป็นต้น
ซึ่งสังคมจำนวนมากอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้ ดังนั้น ข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยในการเติมเงินหรือนโยบายต่าง ๆ เรียกได้ว่าสร้างความหวือหวาได้ แต่อาจจะยังไม่พอกับความต้องการที่จะเปลี่ยนของคนในสังคม
ดร.ธนพร กล่าวต่อว่า ส่วนผลโพลที่สนับสนุนพรรคการเมืองใดนั้น จะเห็นว่าแม้พรรคเพื่อไทยจะมาเป็นอันดับ 1 แต่ช่องว่างกับอันดับ 2 คือพรรคก้าวไกล ถือว่าแคบมาก ห่างกันน้อยมาก เราลองไปดูทุกโพลก็ได้ว่าพรรคเพื่อไทยอันดับ 1 พรรคก้าวไกลอันดับ 2 แต่ทุกโพลช่องว่างห่างกันแค่นิดเดียว แบบหายใจแทบจะรดต้นคอกันอยู่แล้ว
จากผลโพลที่ออกมาจะเกิดความเปลี่ยนแปลง คือ 1.พรรคก้าวไกลที่ยิงแคมเปญว่าให้กาพรรคทั้ง 2 ใบ เป็นสิ่งที่เขาต้องทำต่อ เพราะทิศทางบอกว่าเขาต้องทำแบบนี้
2.พรรคเพื่อไทยกำลังเจอปัญหาออกตัวแรงตอนต้น แต่วันนี้ปัญหาที่ต้องพูดกันตามตรงคือ ผู้สมัครขี้เกียจ โดยเฉพาะผู้สมัครแบบแบ่งเขตจำนวนมากขี้เกียจลงพื้นที่ สาเหตุอาจมาจากเป็นเครือข่าย ส.ส. คนเดิม มีความใกล้ชิดผู้มีอำนาจในพรรค คนกลุ่มนี้จะไม่ค่อยลงพื้นที่ แต่อาศัยดึงแกนนำลงพื้นที่จัดเวทีปราศรัยแล้วจบ ขณะที่คู่แข่งใจเขตวิ่งสู้ฟัดมากกว่า นี่จึงเป็นจุดอ่อนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเขาก็ยอมรับ และกำลังแก้ไขปัญหานี้