ดร.ธนพร วิเคราะห์เลือกตั้ง 66 ชี้ขั้ว ‘ประยุทธ์’ ได้ไปต่อ รัฐบาลได้ 264 เสียง เพื่อไทย แลนด์สไลด์ไม่เกิด ได้ 174 เสียง ย้ำแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ส่งผลแพ้-ชนะ

เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2566 เครือมติชนจัดแคมเปญ “มติชน: เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” เวที 2 “วิเคราะห์เลือกตั้ง 66 จากฐานคะแนนและการแบ่งเขตเลือกตั้ง” วิเคราะห์แผนที่แบ่งเขตเลือกตั้ง ปี 2562 เทียบ ปี 2566 เพื่อประเมินผลการเลือกตั้ง โดย รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย

รศ.ดร.ธนพร กล่าวว่า เขตเลือกตั้งปี 66 แตกต่างจากปี 62 เนื่องจากมี ส.ส.เขต เพิ่มขึ้น จาก 350 เขตเป็น 400 เขต ซึ่งมีผลกระทบ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์โดยเอาคะแนนปี 62 เป็นตัวตั้ง จะเห็นว่า ฝ่ายค้านได้ 236 เสียง พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ไม่เกิด ได้ 174 เสียง ก้าวไกล 48 เสียง ประชาชาติ 9 เสียง เสรีรวมไทย 3 เสียง เพื่อชาติ 2 เสียง

ขณะที่ขั้วพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังได้ไปต่อ โดยฝ่ายรัฐบาลได้ 264 เสียง แบ่งเป็น พรรคพลังประชารัฐ ได้ 142 เสียง ภูมิใจไทย 59 เสียง ประชาธิปัตย์ 48 เสียง ชาติไทยพัฒนา 9 เสียง รวมพลัง 2 เสียง เศรษฐกิจใหม่ 2 เสียง ชาติพัฒนา 1 เสียง พลังท้องถิ่นไท 1 เสียง

ทั้งนี้ จากข้อมูลที่วิเคราะห์ จะเห็นว่าจาก 350 เขต เพิ่มเป็น 400 เขตนั้น ทำให้ฝ่ายรัฐบาลได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นจากปี 62 จำนวน 10 ที่นั่ง อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า เรายังอยู่ในการต่อสู้ระหว่างฝ่ายเอาพล.อ.ประยุทธ์ กับไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ หรืออนุรักษ์นิยมกับประชาธิปไตยก้าวหน้า ซึ่งจากข้อมูลยังคงเป็นฝ่ายอนุรักษ์นิยมต่อไป ณ เวลานี้ หลังการเลือกตั้งปี 66 คาดการณ์ว่าไม่พล.อ.ประยุทธ์ ก็พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้น

สำหรับภาคเหนือ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะได้ส.ส. 31 คน พลังประชารัฐ 30 คน ก้าวไกล 4 คน ภูมิใจไทย 2 คน ประชาธิปัตย์ 1 คน โดยตนขอยก จ.สุโขทัย มาเป็นตัวอย่างในการแบ่งเขต เนื่องจากเป็นฐานที่มั่นของนักการเมืองที่มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดคนหนึ่งของไทย คือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และในการเป็นรัฐมนตรี 14 สมัย ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่มาด้วยการทำงาน

โดยในปี 62 จ.สุโขทัย มี 3 เขตเลือกตั้ง พลังประชารัฐได้ เขต 1 และเขต 2 ส่วนภูมิใจไทย ได้เขต 3 แต่ในการเลือกตั้งปี 66 สุโขทัยจะเพิ่มขึ้นมาอีก 1 เขต รวมเป็น 4 เขต โดยจากการแบ่งเขตใหม่จะทำให้นายสมศักดิ์ กวาดสุโขทัยทั้งจังหวัด ยืนยันว่าการแบ่งเขตมีผลต่อการเลือกตั้งแพ้ชนะ และจากการแบ่งเขตเช่นนี้ ทำให้เกิดแรงเหวี่ยงทางการเมือง ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครออกมาชี้ชัดว่าได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร

ขณะที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทย ในการเลือกตั้งปี 66 พรรคเพื่อไทย จะได้ ส.ส. 90 คน ภูมิใจไทย 22 คน พลังประชารัฐ 19 คน ประชาธิปัตย์ 1 คน ก้าวไกล 1 คน

ส่วนภาคใต้ ในการเลือกตั้งปี 66 ประชาธิปัตย์ ได้ส.ส. 28 คน พลังประชารัฐ 15 คน ภูมิใจไทย 9 คน ประชาชาติ 7 คน รวมพลังประชาชาติไทย 1 คน ซึ่งไม่มีที่ว่างสำหรับพรรคเพื่อไทย

สำหรับภาคกลาง รวมกทม. ในการเลือกตั้งปี 66 ทุกพรรคได้ ส.ส.เพิ่มจากเดิม โดยพลังประชารัฐ ได้ส.ส. 54 คน เพื่อไทย 31 คน ก้าวไกล 25 คน ภูมิใจไทย 15 คน ประชาธิปัตย์ 7 คน ชาติไทยพัฒนา 7 คน