พฤติกรรมในชีวิตประจำวันของพ่อแม่ มีอิทธิพลอย่างมากต่อความคิดในกระบวนการเติบโตของลูก โดยที่ผู้ปกครองหลายคนอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ เรื่องราวล่าสุดที่สร้างความฮือฮาในโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีนถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ให้พ่อแม่หลายคนต้องคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง

จากคำบอกเล่าของคุณแม่คนหนึ่งในเซินเจิ้น ซึ่งได้แชร์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตครอบครัวของเธอบนโซเชียลมีเดีย ในคลิปจะเห็นว่าแม่กำลังตะโกนบอกลูกสาววัย 9-10 ขวบ ว่าอย่านั่งหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา แต่ให้ลุกขึ้นมากินข้าวที่โต๊ะอาหารดีๆ อย่างไรก็ตาม ลูกสาวไม่ได้สนใจรับฟังเสียงของแม่เลย ยังคงนั่งเล่นคอมพิวเตอร์ต่อไป

เมื่อเห็นปฏิกิริยาเพิกเฉยของลูกสาว แม่ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้นจึงพูดดุซ้ำๆ ไม่หยุด กระทั่งเมื่อถึงจุดไคลแมกซ์ นอกจากลูกสาวจะไม่หวั่นเกรงต่อคำพูดของแม่แล้ว จู่ๆ ก็เขวี้ยงเมาส์คอมพิวเตอร์ลงไปที่ใต้โต๊ะ แล้ววิ่งไปที่ห้องของพ่อ เพื่อหนีจากเสียงบ่นของผู้เป็นแม่

เวลานี้ผู้เป็นพ่อก็นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เช่นกัน อย่างไรก็ดี เมื่อเห็นว่าภรรยายังคงตามมาดุลูกสาว เขากลับไม่หือไม่อือ ไม่แสดงความคิดเห็น ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองแต่อย่างใด ได้แต่ก้มหน้าทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ต่อไป ในขณะที่ลูกสาวนั่งตักกอดซบพ่ออยู่ และพูดออกมาว่า “ถ้าแม่ยังดุอีกจะหนีออกจากบ้าน” คำพูดนั้นทำให้แม่ตกใจมาก

เมื่อคลิปที่ปฏิกิริยาของลูกสาวที่มีต่อแม่นี้ถูกโพสต์ลงโซเชีนลฯ ก็ทำให้หลายคนประหลาดใจมาก เพราะเด็กหญิงดูดื้อรั้นมากตั้งแต่ก่อนที่แม่จะโกรธขนาดนี้ นอกจากนี้ หลายคนยังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อท่าทีของคุณพ่อ เพราะเมื่อลูกสาวไม่ยอมฟังแม่ ตัวเขาเองกลับนิ่งเฉย ไม่คิดช่วยสั่งสอนลูกอย่างถูกต้อง ที่สำคัญคือมองว่าสาเหตุหนึ่งที่ลูกไม่ฟังคำสอนของแม่ เพราะเห็นว่าพ่อก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำพูดของแม่เช่นกัน