ชาวเน็ตเสียงแตก สร้างบันไดเลื่อนสูง 350 เมตร ขึ้นถึงยอดเขาแบบไม่เหนื่อยหอบ แต่ชาวเน็ตบอกทำลายความสุขชัดๆ
ตามรายงานของ South China Morning Post การเปิดใช้บันไดเลื่อนความสูง 350 เมตร เพื่อขึ้นภูเขาเทียนอวี่ เมืองฉูหนาน มณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของประเทศจีน กลายเป็นดราม่าเมื่อชาวเน็ตบางคนชื่นชมสิ่งอำนวยความสะดวกที่มอบความสะดวกสบายให้กับผู้สูงอายุและเด็ก แต่บางคนมองว่าเป็นการทำลายความสุขในการปีนเขา และทำลายความงามตามธรรมชาติของพื้นที่
บันไดเลื่อนความยาว 350 เมตรนี้ เริ่มต้นสร้างขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 10 ล้านหยวน (ประมาณ 50.5 ล้านบาท) เพื่อติดตั้งบนไหล่เขาเพื่อช่วยให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ โดยไม่ต้องเหนื่อยหรือเสี่ยงกับความท้าทายในการปีนเขา
โดยบันไดเลื่อนนี้มีความยาว 350 เมตร และแบ่งออกเป็น 3 ช่วง โดยใช้เวลาแค่ราว 10 นาที พานักท่องเที่ยวขึ้นไปจนสุดทางเลื่อนที่ความสูงประมาณ 120 เมตร จากนั้นต้องเดินเท้าต่อไปยังยอดเขาในระยะทาง 3 กิโลเมตรสุดท้าย ใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 50 นาทีเท่านั้น ส่วนค่าตั๋วขั้นบันไดเลื่อนจำหน่ายอยู่ที่ราคา 30 หยวน (ประมาณ 150 บาท)
อย่างไรก็ดี หลังจากบันไดเลื่อนดังกล่าวถูกเปิดใช้งาน แม้จะมีบางคนกล่าวด้วยความยินดีว่า “ฉันไม่ต้องเดินแม้แต่ก้าวเดียวเพื่อไต่ระดับภูเขาลูกใหญ่ แถมยังไม่พลาดจุดชมวิวใดๆ เลย”
“มันยอดเยี่ยมมากสำหรับผู้สูงอายุและเด็ก คุณไม่จำเป็นต้องปีนเขาด้วยตัวเอง เพียงแค่ยืนบนบันไดเลื่อน พูดง่ายๆ ก็คือ ลูกของฉันมีความสุข และฉันก็มีความสุข”
“ฉันสนับสนุนแนวคิดเรื่องบันไดเลื่อนบนภูเขานี้อย่างยิ่ง ทุกคนแค่รับในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ผู้ที่ยินดีจะปีนภูเขาก็แค่ไปปีนเขา แต่สำหรับฉัน ฉันชอบใช้บันไดเลื่อนมากกว่า”
แต่ขณะเดียวกันก็มีนักวิจารณ์ออนไลน์หลายเสียงบอกว่าบันไดเลื่อนดังกล่าวทำให้เกิด “การปีนเขาที่ไม่เจ็บปวด” และแม้ว่าบริการนี้จะทำให้การขึ้นไปถึงยอดเขาง่ายขึ้นและรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ก็ทำลายประสบการณ์ทางกายภาพของการเดินป่า และดึงความงามตามธรรมชาติของภูเขาออกไป
ทางผู้จัดการที่ดูแลสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เปิดเผยว่า “แนวคิดเริ่มแรกของเราคือการสร้างเคเบิลคาร์ แต่นั่นพาคนน้อยกว่ามากและมีความเสี่ยงมากกว่า” ทั้งนี้ บันไดเลื่อนซึ่งช่วยลดเวลาในการเดินทางทั้งหมดลงสู่ยอดเขาได้อย่างมาก แต่หากนักท่องเที่ยวคนใดยังต้องการเดินเท้าก็สามารถทำได้อย่างเดิม “เราเพียงต้องการให้ทางเลือกใหม่แก่ผู้มาเยือน”