เรียกได้ว่าเป็นดราม่าสุดร้อนแรงของวัน หลังผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวหลังจากที่ตนไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งมา แล้วไม่ประทับใจ จึงกลับมารีวิวในแอปฯ แนะนำร้านอาหาร โดยระบุว่ารีวิวไปตามความจริง
แต่ปรากฎว่าทางร้าน กลับไล่แคปภาพรีวิวในด้านลบ ไปโพสต์ลงในสตอรี่ อินสตาแกรมของร้าน พร้อมเขียนข้อความตอบโต้อย่างดุเดือดเป็นภาษาอังกฤษ
ตัวอย่างของคอมเมนต์รีวิวคอมเมนต์หนึ่ง ระบุว่า “ผิดหวังกับเมนูนี้มากๆ ตัวล็อบสเตอร์สด แต่มาในปริมาณน้อย เส้นพาสต้าอืดมากๆ ซอสไม่ค่อยเข้ากัน” ทางร้านแคปภาพคอมเมนต์ดังกล่าวไปโพสต์ พร้อมเขียนข้อความภาษาอังกฤษโต้ แปลได้ความว่า “ถ้าอยากกินล็อบสเตอร์และพาสต้ามากกว่านี้ก็สามารถไปกินที่ร้านบุฟเฟ่ต์ หรือไม่ก็ทำกินเองซะ”
อีกหนึ่งรีวิวระบุว่า “อาหารที่ได้ไม่ตรงปกเลย ผิดหวังอยู่นะ เพราะพนักงานก็ไม่ได้แจ้งอะไรเลย พอติดต่อแอดมินไปก็ได้ความกลับมาว่า ใช้ของตามฤดูกาล เลยไม่ได้ขูดทรัฟเฟิลให้ แต่ตอนทานพนักงานไม่มีการแจ้งข้อมูลใดๆ และเนื้อที่สั่งไปคือมีเดียมแรร์ สองจาน แต่ได้ความสุกจานนึงเป็นมีเดียม ในราคาอาหาร 990 บาทต่อจาน และเนื้อ 100 กรัม เชฟควรควบคุมความสุกของเนื้อได้ดีกว่านี้ค่ะ เพราะส่งผลต่ออรรถรสการรับประทานและรสสัมผัสของเนื้อวัวค่ะ”
ทางร้านก็ยังตอบโต้แบบเจ็บแสบ ระบุว่า “คุณควรจะปริ้นท์รูปในเมนูของเราออกมา แล้วกินซะ จะได้ตรงปกเป๊ะๆ และที่เนื้อมันแห้งเพราะว่าคุณใช้เวลาถ่ายรูปเป็น 10 นาทียังไงล่ะ”
อีกคอมเมนต์หนึ่ง รีวิวข้าวรีซ็อตโต้ ระบุว่า “ตั้งใจไปกิน risotto แต่ผิดหวังมาก ไม่อร่อยเลยค่ะ ไม่เหมาะสมกับราคา 750 บาท ข้าวก็แข็งมาก งงว่าขายในราคาเท่านี้ได้ยังไง กินมาหลายร้านมาก ผิดหวังค่ะไม่อร่อยจริงๆ” ซึ่งทางร้านก็ไม่ลดความดุดันลง ตอบโต้อย่างร้อนแรงว่า “ในทางเทคนิคแล้วคุณไม่รู้วิธีกินมากกว่า เก็บเงินไว้หาหมอฟันซะด้วยนะ”
และยังส่งท้ายด้วยอีกหนึ่งสตอรี่ ที่ทางร้านได้โพสต์เป็นข้อความภาษาอังกฤษ ระบุว่า “ตอนนี้ทางถูกโจมตีโดยพวกไร้การศึกษาที่อยากจะเป็นคออาหาร(นักรีวิว)”
งานนี้ทำเอาชาวเน็ตถึงกับวิพกาษ์วิจารณ์พฤติกรรมของแอดมินของทางร้าน ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมแบบนี้ เพราะการสื่อสารในลักษณะตอบโต้ และด่าทอลูกค้าแบบนี้ ไม่ควรเกิดขึ้นเลย และยังนำไปสู่กระแสด้านลบต่อร้านอีกด้วย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของร้านดังกล่าว ได้ปิดลงชั่วคราวเป็นที่เรียบร้อย