ดราม่าสนั่นโซเซียล จากกรณีที่นิสิตจากม.ดัง ได้ไปฝึกงานกับโรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนถูกส่งตัวกลับ เพราะก้าวร้าวใส่ผู้บริหาร ทั้งทางคณะยังไม่ช่วยทำให้อาจจบไม่ทันเพื่อน ทำชาวเน็ตถกสนั่น เสียงแตกเป็น 2 ฝั่ง
เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพบันทึกข้อความ แจ้งผลการพิจารณากรณีนิสิตถูกส่งตัวกลับจากสถานฝึกประสบการณ์วิชาชีพก่อนกำหนด อ้างถึงสำเนาหนังสือส่งตัวนิสิตกลับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพของโรงแรม ที่ได้ส่งหนังสือขอส่งตัวนิสิตกลับจากการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ จำนวน 1 คน
เนื่องจากนิสิตไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามระเบียบของสถานประกอบการ ในระหว่างการฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และทางคณะก็ได้ลงความเห็นว่า นิสิตประพฤติตัวไม่เหมาะสม ก้าวร้าวกับผู้บริหารของโรงแรม ซึ่งขัดกับหน้าที่และความรับผิดชอบของนิสิตต่อสถานฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
และนอกจากนี้ นิสิตยังทำตัวขัดกับระเบียบของมหาวิทยาลัย เรื่องการปฏิบัติตัวเป็นสุภาพชน ไม่ประพฤติปฏิบัติตัวในเรื่องที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือมหาวิทยาลัย และทำให้นิสิตฝึกงานไม่ครบในปี 2564 และให้ไปฝึกงานใหม่ในภาคการศึกษาปลายปี 2565
ด้านนิสิตเจ้าของโพสต์ก็ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ตนนั้นได้ไปฝึกงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง แต่ตนกลับถูกทางโรงแรมใช้งานเกินหน้าที่ ก่อนที่เจ้าตัวจะแจ้งกับผู้บริหารว่า ‘มาทำเองสิ’ ทำให้ทางโรงแรมส่งตัวกลับ
นิสิตฝึกงานรายนี้จึงได้ไปติดต่อฝึกงานกับที่อื่น ระหว่างนั้นก็คุยกับอาจารย์ และอาจารย์บอกว่า เรื่องนี้ต้องใช้เวลา 3 สัปดาห์ในการพิจารณา แต่ปรากฏว่าเมื่อทางคณะพิจารณา กลับไม่ออกเอกสารให้ และมองว่านิสิตเป็นฝ่ายผิด ให้นิสิตไปฝึกงานใหม่ในปีหน้าและส่อแววจบไม่ทันเพื่อน
โดยนิสิตรายนี้นั้นได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ตนต้องการคือการช่วยเหลือจากทางคณะ เพราะตนได้ไปติดต่อกับสถานที่ฝึกงานใหม่แล้ว และสถานที่ฝึกงานใหม่ก็พร้อมรับ ก่อนยอมรับว่าตนทำผิดที่ไปพูดกับผู้บริหารโรงแรมแบบนั้น แต่ตนก็เคยพูดดี ๆ ไปแล้ว และทางคณะก็ไม่ช่วยทั้งที่ติดต่อไปตั้งแต่อาทิตย์แรก ๆ ก่อนจะตั้งคำถามว่า ทางคณะจะมีอาจารย์ไว้ทำไม และขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ด้วย
แน่นอนว่าเรื่องราวดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตในทันที และเข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างล้นหลาม บ้างก็เข้ามาตำหนินิสิตรายนี้ที่เข้าไปฝึกงานกับทางโรงแรม แต่กลับพูดใส่ผู้บริหารให้มาทำเอง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แล้วยังหวังให้ทางมหาวิทยาลัยมาช่วย พร้อมกับบอกว่าหากไม่ผ่านก็รอปีหน้า เพราะการเรียนจบไม่ทันเพื่อนก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย
นอกจากนี้ยังมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าในชีวิตการทำงานนั้นก็ไม่ได้ว่าจะต้องทำงานตามหน้าที่เพียงอย่างเดียว ก็มีทำงานเกินหน้าที่บ้างในบางครั้ง และถ้าหากนิสิตรายนี้ไม่สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายเกินหน้าที่ได้จริง ก็มีอีกหลายวิธีที่สามารถใช้เพื่อแก้ปัญหาได้ ไม่ใช่การพูดใส่ผู้บริหารในลักษณะดังกล่าว
อย่างไรก็ตามกลับมีชาวเน็ตบางส่วนเห็นใจนิสิตรายนี้ และบอกว่าส่วนใหญ่นั้นนักศึกษาฝึกงานมักจะถูกใช้ให้ทำงานเกินกว่าที่ได้รับ ทั้งบางบริษัทก็มองว่านักศึกษาที่มาทำงานให้นั้น มาเผื่อหาประสบการณ์ จึงไม่ได้ให้เงินค่าจ้าง ทำให้นักศึกษาต้องออกค่าใช้จ่ายหลาย ๆ อย่างเอง จึงทำให้เกิดคำถามว่านี่เป็นธรรมกับนักศึกษาแล้วหรือ?
ที่มา : facebook