ชาวเน็ตถกสนั่น ตำรวจรอจนเสร็จพิธีแต่งงานค่อยรวบเจ้าบ่าว บอกเป็นการบังคับใช้กม.อย่างมีมนุษยธรรม ชาวเน็ตชี้เจ้าสาวสิน่าสงสารที่สุด
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตำรวจหูเป่ยของจีน ได้มีปฏิบัติการจับเจ้าบ่าวในงานแต่งงาน ตำรวจอธิบายว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีมนุษยธรรม โดยปล่อยให้เจ้าบ่าวทำพิธีแต่งงานให้เสร้จสิ้นก่อนแล้วพาเขาออกจากงานโดยไม่สวมกุญแจมือ
สื่อในประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจในเมืองอี๋ชาง มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ได้มาที่งานแต่งงานและจับกุมเจ้าบ่าว ซึ่งเป็นผู้หลบหนีออจากคุก โดยหลังจากตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุก็ถามว่าคู่บ่าวสาวอยู่ที่ไหน
ซึ่งเจ้าบ่าวได้ขอความเมตตาและชี้ว่ามีญาติและเพื่อนฝูงมากมายในที่เกิดเหตุ ตำรวจกล่าวว่า “ถ้าเราไม่คำนึงถึงสถานการณ์ของคุณ เราคงเข้าไปจับกุมคุณแล้ว” ในที่สุดพวกเขาก็รอให้เจ้าบ่าวจัดงานแต่งงานให้เสร็จก่อนที่จะจับกุมเขา
ตำรวจพาเจ้าบ่าวออกไปหลังจากขึ้นเวทีเพื่อพูดคุยและดื่มอวยพร โดยบอกกับเจ้าบ่าวที่สวมชุดสูทแบบเป็นทางการว่า “เราจะไม่ใส่กุญแจมือคุณ กรุณาให้ความร่วมมือ” เจ้าบ่าวไม่ขัดขืนและให้ความร่วมมือตลอดกระบวนการ
สื่อในประเทศรายงานว่า ตำรวจกังวลว่าการบุกจับเจ้าบ่าวในงานแต่งงานจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวาย และตัดสินใจที่จะบังคับใช้กฎหมายมีมนุษยธรรม
อย่างไรก็ตาม งานแต่งงานดังกล่าวยังกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือด
ตามรายงานระบุว่า เจ้าบ่าวแซ่จาง เป็นอาชญากรร้ายแรงที่หนีออกจากคุกมาก่อนหน้านี้ ตำรวจได้รับแจ้งว่าเขากำลังจัดงานแต่งงานในโรงแรมแห่งหนึ่ง ในวันแต่งงานตำรวจได้วางกำลังรักษาความปลอดภัยรอบ ๆ โรงแรม และแจ้งให้พนักงานโรงแรมไม่เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของตำรวจ
ตำรวจเข้าโรงแรมแบบเงียบ ๆ หลังงานวิวาห์เริ่มแล้ว พิธีแต่งงานเป็นไปอย่างสงบ ทั้งคู่ฉลองร่วมกับญาติและเพื่อน ๆ จนเจ้าบ่าวถูกพาตัวไป แขกยังแปลกใจไม่รู้ว่าเจ้าบ่าวถูกพาตัวไป
ตำรวจ เปิดเผยว่า เจ้าบ่าวแซ่จาง ใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและซ่อนตัวตนของเขาตั้งแต่หนีออกจากคุก เขาไม่ได้ก่ออาชญากรรมใด ๆ เพิ่มเติม และจะถูกนำตัวกลับเข้าคุกเพื่อรับโทษ แต่พวกเขาไม่ได้เปิดเผยว่าเขาต้องถูกคุมขังอีกนานแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตจำนวนมากคัดค้านการที่ตำรวจปล่อยให้ทั้งสองแต่งงานกัน โดยชี้ว่าเจ้าสาวน่าสงสารที่สุด เพราะเธอคงไม่รู้ว่าสามีของเธอเป็นผู้ร้ายหลบหนี “บางทีไม่จัดงานแต่งงานจะดีกว่า จะรอให้พิธีเสร็จทำไม ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของเจ้าสาวเลยเหรอ”