ว่าที่เจ้าสาวทักมาสอบถามค่าจัดงานแต่งงาน ส่งแบบมาให้ดู ทั้งชุด ทั้งฉาก ร้านตีราคาประมาณ 3 แสน บอกแพงไป ดูถูกคนจน เจอร้านด่ากลับไฟแลบ
กลายเป็นดราม่าสะเทือนวงการพรีเวดดิ้ง หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า Yinme Ka ซึ่งเป็นเวดดิ้งสตูดิโอ รับจัดงานแต่งงานแบบครบวงจร ได้เปิดเผยเรื่องราวของลูกค้าคนหนึ่ง ซึ่งได้ทักแชตมาสอบถามเรื่องค่าจัดงานแต่งงาน พร้อมกับแนบเรฟเฟอเรนซ์ให้มาดู
ซึ่งทางร้านได้ตีราคาออกมา รวมทุกอย่างแล้วประมาณ 300,000 บาท แต่ลูกค้ากลับบอกว่าร้านคิดเงินแพงเกินไป ไม่เห็นใจคนจนเลย
โดยเรฟเฟอเรนซ์ที่ทางลูกค้าส่งมานั้น เป็นชุดแต่งงานแบบผ้าลูกไม้ทั้งตัว และอีกอันคือชุดสีขาวผ้าไหม ส่วนเวทีนั้นเป็นฉากสวยงาม ล้อมรอบไปด้วยดอกไม้ และทางร้านได้ตีราคาออกมา ดังนี้
- ค่าจัดงานแต่งงาน : 250,000 บาท รวมรันคิว
- ค่าเดินทางด้วยรถ 6 ล้อ 2 คัน (เพื่อใช้ขนของและฉาก) : 20,000 บาท
- ที่พัก 2 คืน ไม่จำเป็นต้องแพงและขอใกล้สถานที่จัดงาน ทั้งหมด 10 ห้อง ให้ทีมงาน 20 คน
- ชุดแต่งงานแบบที่ 1 ลูกไม้ทั้งตัว ผ้าสำเร็จ ราคา 25,000 บาท
- ชุดแต่งงานแบบที่ 2 ราคา 8,900 บาท
- หากเอาทั้ง 2 ชุดลดให้เหลือ 30,000 บาท
เมื่อลูกค้าเห็นแบบนี้กลับมาบอกว่า ราคาแพงมาก ทางร้านรับแต่ลูกค้ารวย ๆ เหรอ ไม่สนใจคนไม่มีเงินเลยเหรอ นึกว่าจัดงานแค่ 50,000-60,000 บาท ชุด 5,000 ก็แพงแล้ว
“ควรรับงานให้คนจนด้วยค่ะ อีสานแบบนี้จะมีคนรวยสักกี่คนที่จ้างได้แบบนี้ ทำราคาต่ำ ๆ บ้าง คนจนก็อยากจัดงานนะ ดูถูกคนจนจัง”
เจอแบบนี้ทเอาทางร้านถึงกับงงว่าไปดูถูกคนจนตรงไหน เพราะจากเรฟเฟอเรนซ์ที่ให้มาจะให้จัดงานแต่งงานในงบ 50,000-60,000 มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถ้ามีงบน้อยก็ให้แบบที่ต่ำกว่านี้ ถ้าลูกค้าคิดว่าสามารถหาที่ที่ให้ราคาต่ำกว่านี้ได้ก็หา ร้านไม่เคยดูถูกคนจนเลย
ส่วนชุดแต่งงานนั้น ให้ทำในราคา 5,000 ร้านทำให้ไม่ได้ เพราะใช้ลูกไม้ทั้งตัว แค่ค่าลูกไม้ไม่รวมค่าตัดเย็บ 5,000 บาทยังไม่พอ
“คนจนไม่ได้น่ารังเกียจนะคะ หลายคนเป็นคนดี ถ้าเขาจะทำอะไรทุกอย่างตามงบของเขา แต่คนที่น่ารังเกียจคือคุณเอง ยังดูถูกตัวเองเลย”
“และอีกอย่างหนึ่งนะคะ ถ้าเงินไม่ถึง ก็ลดความต้องการลงมาหน่อย ไม่ใช่มาว่าคนอื่นดูถูกคนจน รับแต่งานคนรวย ไปเปลี่ยนทัศนคติใหม่นะคะ อย่าทำนิสัยแบบนี้..”
ลูกค้าไม่จบ ทักมาต่อว่า ทำไมไม่แจ้งรายละเอียดให้ครบ
หลังจากทางร้านเอาเรื่องดังกล่าวมาโพสต์ ลูกค้าคนเดิมก็มาต่อว่าเพิ่ม ว่าทางร้านพูดแค่ด้านเดียว ทำไมไม่บอกว่า ค่าจัดงานแต่งงาน 250,000 บาท ไม่รวมเครื่องเสียง ไฟ พิธีกร ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ ส่วนเรื่องฉากนั้น ลูกค้าไม่เน้นดอกไม้ แค่อยากได้ที่นั่งสำหรับ 100 คน ทั้งเช้าและเย็น ที่ลูกค้าบอกว่าแพง เพราะไม่รวมทุกอย่าง หากรวมทุกอย่างแล้ว 2.5 แสน ก็ไม่แพง
ร้านจึงตอบกลับไปว่า ถ้ารวมทุกอย่าง 2.5 แสนบาทยิ่งไม่ได้ และช่วยคิดถึงค่ารถด้วยเพราะของเยอะ ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ ซึ่งทางร้านมีเป็นของตัวเอง ฉากก็พอมีก็เอามาปรับแต่งได้ จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้วไวน์ เราก็มี จึงทำราคานี้ให้ลูกค้าได้ ถ้าร้านอื่นไม่มีของยังไงก็แพงกว่านี้
ถ้าลูกค้าบอกแต่แรกว่า มีงบจัดงานทั้งหมด 250,000 บาท รวมทุกอย่าง เราก็จะแนะนำให้จัดงานเล็ก ๆ ไปตามงบประมาณ แต่เมื่อไม่ได้แจ้งงบประมาณ และให้เรฟเฟอเรนซ์มาแบบยิ่งใหญ่อลังการ อยากให้งานดูว้าว เราก็เสนอไปตามที่คิดว่าเหมาะสมก็แค่นั้น
ทางร้านยังบอกอีกว่า ลองเอาข้อความแบบที่ทางร้านไปโพสต์ถามเพื่อน ๆ ของตัวเองดู ลองฟังความคิดเห็นของคนอื่นดูบ้าง ซึ่งเหมือนลูกค้าจะยังไม่จบอีก ส่งข้อความอะไรมาด่า ก่อนจะลบไป และเปลี่ยนมาจะเป็นโทรหาแทน แต่ทางร้านไม่ได้รับสาย
โพสต์ดังกล่าวมีเรื่องนี้ทำเอาคนแชร์กันออกไปเป็นพันครั้ง ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ลูกค้างบน้อยแต่หวังสูง แถมมาบ่นร้านว่าดูถูกคนจน
บางคนแนะนำว่า หากเห็นว่าที่ร้านเสนอมาให้เกินงบที่มี ก็บอกสั้น ๆ ว่าขอบคุณค่ะ งบประมาณไม่ถึง แล้วก็จบ ไม่ใช่มาพูดเหน็บพูดแซะร้าน
ลูกค้าใช้คำว่า “มีงบพอประมาณ” ซึ่งไม่มีใครรู้ว่าพอประมาณของแต่ละคนมันเท่าไร ไม่ใช่ว่าเห็นงบบานปลายแล้วจะมาแซะร้าน และถ้าค่าชุดแต่งงานมีงบแค่ 5,000 บาท แนะนำให้ไปเช่ายังจะดีกว่า เผลอ ๆ ค่าเช่าเป็นหมื่นด้วยซ้ำ
ชาวเน็ตบางคนบอกว่า งานแบบอีสาน เลี้ยงพระ เลี้ยงแขก จัดกันเล็ก ๆ ในครอบครัวยังประมาณ 1 แสนบาท และจากแบบที่ให้มา ถ้าจะจัดแบบนั้นก็จะประมาณ 500,000-600,000 บาท เป็นอย่างต่ำสำหรับแขกร้อยคน ดูถูกตัวเองไปก่อนแล้วคิดว่าคนอื่นคิดเหมือนตัวเอง