ดรามาอีก! หมอพรทิพย์ นอนทับ Lava moss พืชอนุรักษ์ที่ไม่ควรเหยียบ

Home » ดรามาอีก! หมอพรทิพย์ นอนทับ Lava moss พืชอนุรักษ์ที่ไม่ควรเหยียบ

ชาวเน็ตแห่เตือน หมอพรทิพย์ หวั่นนักท่องเที่ยวเจอแบน หลังโพสต์รูป นอนบน Lava moss พื้นอนุรักษ์ประเทศไอซ์แลนด์ที่ไม่ควรเหยียบ

สืบเนื่องจากประเด็นดรามาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา (30 กันยายน 2566) หลังจากมีคลิปที่ถูกแชร์ไปว่อนเน็ต นั้นก็คือคลิปที่เจ้าของร้านอาหารคนไทยร้านหนึ่งในประเทศไอซ์แลนด์ ได้ประกาศไล่ หมอพรทิพย์ หรือสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ออกจากร้าน ซึ่งนอกจากคลิปนั้นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์แล้ว ยังมีอีกภาพที่กลายเป็นประเด็นดรามาอีกระลอก เพราะการที่ หมอพรทิพย์ ไปท่องเที่ยวทริปไอซ์แลนด์นั้น ได้โพสต์ภาพ ขณะที่ไปสถานที่ที่ชื่อว่า THE LAVA FIELDS OF ICELAND หรือ ทุ่งลาวาแห่งไอซ์แลนด์

โดยภาพนั้น เป็นภาพที่ หมอพรทิพย์ ได้โพสต์ท่านอนบนพืชบอสนั้น และยกขาขึ้น โดย หมอพรทิพย์ ได้โพสต์รูประบุข้อความว่า “สิ่งมหัศจรรย์สวยงามทางธรรมชาติของไอซ์แลนด์คือ Lava Moss บางคนเรียก Lava Field ที่วันนี้แดดดีเลยได้ถ่ายรูปด้วยมองเหมือนพรมกำมะหยี่นุ่ม เป็นก้อนๆตามลักษณะของลาวาจากภูเขาไฟ #เที่ยวกับหมอพรทิพย์ #เที่ยวไอซ์แลนด์”

ซึ่งล่าสุดนั้น หมอพรทิพย์ ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกจากโซเชียลมีเดียของตนเองแล้ว เนื่องจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีที่ หมอพรทิพย์ นอนบนพืชมอส ซึ่งเมื่อไปดูประวัติและคำต้องห้ามในการไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง ทุ่งลาวาแห่งไอซ์แลนด์ แล้วนั้นจะพบว่า มอสที่ถูกนอนทับนั้นเป็นพืชที่สวยงามแต่เปราะบางมากๆ ไม่ควรเหยียบย้ำอีกทั้งยังมีป้ายเตือนให้นักท่องเที่ยวเดินเท้าบนเส้นทางที่กำหนดไว้เท่านั้นอีกด้วย โดยทางด้านเว็บไซส์ meanderingwild.com นั้นได้บอกข้อมูลเอาไว้ว่า

ทุ่งลาวาในไอซ์แลนด์มีอายุแตกต่างกันไป บางตัวก็โบราณในขณะที่บางตัวก็ใหม่อย่างไม่น่าเชื่อ ที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์คือ Eldhraun ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ Laki ปะทุในศตวรรษที่ 18 ลาวาดั้งเดิมตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้านเคียร์กยูแบร์ยาร์กเลาส์ตูร์ไหลลงมาตามก้นแม่น้ำของแม่น้ำสกัฟตาและลงสู่พื้นที่เกษตรกรรมที่ราบต่ำในเมดัลลันด์ และปัจจุบันกลายเป็นกลุ่มของลาวาและมอสที่ปะปนกัน

มอสที่เติบโตในไอซ์แลนด์เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศที่เปราะบาง มีมอสมากกว่า 600 ชนิดที่ปลูกในไอซ์แลนด์ และหลายชนิดสามารถอยู่รอดได้ในอุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์ซึ่งเป็นปกติในฤดูหนาวและเจริญเติบโตได้ในสภาพอากาศที่เย็นชื้น แม้ว่าจะต้องระมัดระวังในการฟื้นตัวเมื่อไปเยือนทุ่งลาวา การปฏิบัติตามเส้นทางหรือถนนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหาย เมื่อขับเคลื่อนหรือเดินต่อไปแล้ว

ทุ่งลาวาจะกักเก็บรอยยางและความเสียหายไว้เป็นเวลานาน ทางตอนเหนือรอบๆ Krafla ทุ่งลาวาอยู่ในพื้นที่ที่เกิดความร้อนใต้พิภพและมีช่องระบายไอน้ำและสระน้ำร้อนในบริเวณใกล้เคียง หากมีสิ่งกีดขวางหรือทางเดินไม้กระดาน ให้ยึดติดไว้