ผู้ใหญ่บ้าน พาเด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านค่าย ถูกพ่อแท้ ๆ ย่ำยี นับสิบครั้ง จนต้องหนีออกจากบ้าน ด้าน แม่เลี้ยงโผล่โต้ เหยื่อ เผยทั้งน้ำตา

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ส.ค.2565 นางจินตนา บุญประเสริฐ ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พา ด.ญ.บี (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วิทยา กุลบุญ ร้อยเวร สภ.บ้านค่าย หลังจากสอบถามเด็กได้บอกว่า ถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืนมานานร่วม 2 ปี

นางจินตนา กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้า นางพวงแก้ว (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี แจ้งว่าพบเด็กผู้หญิงมาหลบซ่อนตัวอยู่ในกอต้นกล้วยข้างบ้าน สภาพหวาดกลัว จึงพาตัวมาพักในบ้าน ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงสอบถาม ด.ญ.บี เล่าว่า ได้หนีออกจากบ้าน ที่อยู่ในพื้นที่ ต.นาตาขวัญ อ.เมือง เพราะถูกแม่เลี้ยงตี จึงหนีมาหาเพื่อนแต่ไม่เจอเพื่อน จึงมานั่งแอบในกอกล้วย เพื่อรอเพื่อน

ผู้ใหญาบ้าน พาเด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านค่าย ถูกพ่อแท้ ๆ ย่ำยี นับสิบครั้ง จนต้องหนีออกจากบ้าน

นางจินตนา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังบอกว่า เคยถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืนมานับสิบครั้ง ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.4 จนถึงปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นป 6 ประมาณ 2 ปีมาแล้ว จึงพยายามสอบถามหลายครั้ง เด็กก็ยังยืนยันว่าถูกพ่อแท้ ๆ ข่มขืนจริง จึงพาเข้ามาแจ้งความ เพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยัง น.ส.นพพนา เจริญธรรม หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจ.ระยอง ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และให้ความช่วยเหลือ หลังจากที่เจ้าหน้าที่สอบถาม ด.ญ.บี ยังคงให้การยืนยันว่า ถูกพ่อแท้ ๆ ที่ชื่อ นายเบิร์ด อายุ 45 ปี ข่มขืนมานานร่วม 2 ปี โดยครั้งแรก พ่อเมากลับมา อาศัยจังหวะที่แม่เลี้ยงกับน้องชายไม่อยู่บ้าน ทำการข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ พร้อมขู่ว่าห้ามบอกใคร ถ้าบอกตาย จึงทำให้หวาดกลัว

และก่อเหตุข่มขืนอีกนับสิบครั้ง เคยบอกแม่แท้ ๆ แล้วแต่แม่ไม่เชื่อ และล่าสุดเคยแจ้งกับตำรวจที่มาอบรมที่โรงเรียนไปแล้ว ซึ่งทางครูเตรียมช่วยเหลือ และเตรียมจะเขียนจดหมายร้องเรียนมูลนิธิปวีณาแต่ยังไม่ได้เขียนส่งไป ส่วนสาเหตุที่หนีออกมาเพราะต้องการกลับไปอยู่กับย่าที่ จ.สระบุรี ไม่อยากอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยงแล้ว

ต่อมา น.ส.กัญธิชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี แม่เลี้ยงของผู้เสียหาย ได้เดินทางมาที่ สภ.บ้านค่าย เมื่อเจอ ด.ญ.บี ก็เดินเข้าไปหา พร้อมถามทั้งน้ำตาว่า “หนูพูดความจริงได้ไหม เพราะสิ่งที่หนูพูดไป ถ้าไม่เป็นความจริง จะเกิดอะไรกับครอบครัว ถ้าพูดไปโดยไม่เป็นความจริง จะเป็นเรื่องใหญ่” โดย ด.ญ.บี ตอบทั้งน้ำตาว่า “พ่อข่มขืนหนูจริง ๆ” ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ พม.ระยอง

ด้าน น.ส.กัญธิชา เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าตนยอมรับว่าได้ตี ด.ญ.บี แต่ก็เป็นแบบแม่ตีลูก เพราะเกี่ยวกับเรื่องเสื้อผ้า แต่ด.ญ.บีกลับสู้และบีบคอตน ก่อนจะวิ่งลงจากบ้านและหนีไป ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่าถูกพ่อข่มขืน ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยเด็กจะอยู่กับตนตลอด ซึ่งเด็กมักชอบกุเรื่อง และ เป็นเด็กใจแตก เพิ่งมาอยู่กับตนประมาณ 2 ปี ได้ก่อเรื่องหลายเรื่อง จนถูกพ่อตีหลายครั้ง

น.ส.กัญธิชา กล่าวต่อว่า พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ของพ่อเด็ก สามารถตรวจร่องรอยการถูกข่มขืนได้ ส่วนจะถูกใครล่วงละเมิดมาก่อนจะพิสูจน์อย่างไร เพราะเด็กเคยมีประวัติมาก่อน ส่วนนายเบิร์ดพ่อ ของด.ญ.บี ขณะนี้ยังทำงานอยู่ ซึ่งทราบเรื่องแล้ว รู้สึกตกใจมาก เตรียมมาพบตำรวจหลังเลิกงาน พร้อมยืนยันว่าไม่เคยกระทำตามที่ลูกสาวกล่าวหา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ โดยมอบหมายให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดระยอง พาด.ญ.บีไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลบ้านค่าย เพื่อตรวจหาร่องรอยการถูกข่มขืน หลังจากนั้นก็จะพากลับไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ระยอง

ส่วนเรื่องคดีจะมีการสอบสวน ด.ญ.บีต่อหน้าสหวิชาชีพ และเตรียมสอบสวนพยานบุคคล เพื่อหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป หากมีพยานหลักฐานก็จะมีการเรียกตัวผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวน ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ