นายณัฐชา (นัด-ถะ-ชา) บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขต 25 พรรคก้าวไกล เปิดโปงปฏิบัติการสงครามข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ของกองทัพ ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อคืนวันอังคาร (31 ส.ค.) ว่ายังมีขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อปกป้อง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และโจมตีผู้ที่มีแนวคิดทางการเมืองต่างจากรัฐบาล

สร้างความร้าวฉานออนไลน์

การอภิปรายของนายณัฐชาใช้เวลาไปราว 1 ชั่วโมง เริ่มต้นจากการฉายคลิปนำเสนอภารกิจ ที่ระบุว่าเป็นการสร้าง “ผลกระทบทางความคิด ตัดสินใจ สร้างอิทธิลต่อความคิด ให้ไปในทางที่ถูกต้อง” ในโลกออนไลน์

ส.ส. รายนี้ กล่าวว่า ขบวนการไอโอนี้มีบัญชีทวิตเตอร์หนึ่งที่คอยแชร์โพสต์ที่สนับสนุนรัฐบาลหรือวิจารณ์ฝั่งตรงข้าม เพื่อให้ทหารชั้นผู้น้อยที่ร่วมปฏิบัติการนี้นำไปแชร์ต่อผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียของแต่ละคน

ไม่ใชแค่นั้น เอกสารที่นายณัฐชาได้รับยังพบว่ามีการแบ่งแต่ละหน่วยงานให้รับผิดชอบเพจเฟซบุ๊ก เพื่อเข้าไปแย้งหรือดิสเครดิต

โกงเบี้ยเลี้ยง IO ชั้นผู้น้อย

นายณัฐชา กล่าวต่อไปว่า หน่วยปฏิบัติการไอโอนี้มีการโกงเบี้ยเลี้ยงหรือค่าตอบแทนของทหารชั้นผู้น้อย โดยมีคลิปเสียงการประชุมของหน่วยดังกล่าว ที่มีผู้กล่าวว่าทหารชั้นผู้น้อยจะได้เงินเพียงแค่ประมาณ 1,500 บาทต่อเดือนเท่านั้น ทั้งที่มีเอกสารระบุว่าจะจ่ายให้คนละ 240 บาทต่อวัน หรือ 7,440 บาทในเดือนที่มี 31 วัน โดยอ้างว่า “ผู้บังคับบัญชาขอเอาไว้” ซึ่งเป็นการทุจริตที่เกิดขึ้นในกระทรวงกลาโหม ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง

การใช้แรงงานทหารชั้นผู้น้อยที่มากเกินไปยังไม่หมดเท่านั้น ส.ส. กรุงเทพมหานคร รายนี้ นำสำเนาเอกสารฉบับหนึ่งลงวันที่ 5 ก.ค. มาเปิดเผย ว่าคำสั่งให้ผู้ปฏิบัติการไอโอต้องประจำอยู่หน้าจอตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดิสเครดิตหรือตอบโต้โพสต์ที่โจมตีรัฐบาลในทุกประเด็น รวมถึงการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

“ในห้วงเวลาที่ออกหนังสือฉบับนี้ ผมเช็กมาแล้วครับ วันที่ลงหนังสือให้ติดตามกัน 24 ชั่วโมงเป็นวันที่ยอดผู้ติดเชื้อไต่ระดับมาเกือบ 10,000 คนต่อวัน ยอดผู้เสียชีวิตไต่ระดับมาเกือบ 100 คนต่อวัน ณ เวลานั้น แต่เขาไม่ช่วยเหลือ ไม่ดูแล ยังไม่พอ กลับทำหน่วยงานปฏิบัติการลับๆ ปฏิบัติการที่เรียกว่าเลวซ้อนเลว ที่ผมพูดไปนั้น มาโจมตีด้อยค่าพี่น้องประชาชนที่ทนทุกข์ทรมานอยู่ ณ เวลานี้” นายณัฐชา กล่าว

“สุดท้ายไม่แก้ไขไม่เท่าไหร่ กลับกลายมาเป็นตั้งศูนย์ปฏิบัติการปกป้องการทำงานของตัวเอง 24 ชั่วโมง”

กอ.รมน. รับไม้ต่อ

นายณัฐชา เผยว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. มีหนังสืออีกฉบับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กองทัพภาคที่ 2 ส่งเจ้าหน้าที่จังหวัดละ 5 นายมาอบรมปฏิบัติการไอโอ และตนมีรายชื่อครบทั้ง 20 จังหวัดนี้ พร้อมช่องทางการติดต่อของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ จากนั้นก็มีการติดตามการโพสต์ของเจ้าหน้าที่เหล่านี้ด้วยการให้รายงานผลงานมาด้วย

ส.ส. รายนี้ ย้ำว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นโดยมี พล.อ.ประยุทธ์ เป็น ผู้อำนวยการ กอ.รมน.

นายณัฐชา พบว่า กอ.รมน. ของบประมาณของปีงบประมาณ 2565 ไว้ที่ประมาณ 7,880 ล้านบาท โดยแบ่ง 3,764 ล้านบาทสำหรับ “การกำลังพลและการดำเนินงาน” ซึ่งที่ผ่านมาเเงินส่วนนี้นำไปใช้ในราชการลับเป็นส่วนใหญ่

หวั่นใช้งบสอดแนมประชาชน

นอกจากนี้ นายณัฐชา เผยต่อไปว่า กอ.รมน. ยังของบประมาณไปทำระบบคอมพิวเตอร์เพื่อรวมข้อมูลปริมาณมาก (บิ๊กดาต้า) จำนวน 361 ล้านบาท เพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นฐานของประชาชนทุกคน ประวัติการครอบครองปืน เรื่อยไปจนถึง ข้อมูลโครงข่าวใบหน้าที่จะเชื่อมโยงกับกล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี)

นายณัฐชา ตั้งข้อสังเกตว่า กอ.รมน. อาจนำข้อมูลบิ๊กดาต้านี้มาจับผิดการกระทำของประชาชนที่มีแนวคิดทางการเมืองต่างจากรัฐบาล เพราะที่ผ่านมาก็มีรายชื่อที่สั่งจับตามองผู้เห็นต่างออกมา ที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลนำมาเปิดเผย

• รังสิมันต์ โรม โชว์เอกสารลับหลุด! มีชื่อคนก้าวไกล-แกนนำม็อบ ถูกจับตาภัยความมั่นคง