ญี่ปุ่นประหารชีวิตครั้งแรกในรอบ 2 ปี “แขวนคอ” 3 นักโทษ ประเดิมยุคนายกฯคิชิดะ
วันที่ 21 ธ.ค. เอเอฟพี รายงานว่า ทางการญี่ปุ่นดำเนินการประหารชีวิตนักโทษ 3 คน ด้วยการแขวนคอเมื่อวันอังคารที่ 20 ธ.ค. นับเป็นการประหารชีวิตครั้งแรกในรอบ 2 ปี และเป็นการประหารชีวิตครั้งแรกภายใต้นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนต.ค.หลังชนะการเลือกตั้งทั่วไปเดือนเดียวกัน
โฆษกกระทรวงยุติธรรมญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์เอเอฟพีว่า นักโทษ 3 คนนี้ ได้แก่ นายยาสุทากะ ฟูจิชิโระ อายุ 62 ปี ซึ่งใช้ค้อนและมีดสังหารป้าวัย 80 ปีของตัวเอง ลูกพี่ลูกน้อง 2 คน และคนอื่นอีก 4 คน ในปี 2547 ส่วนอีก 2 คน คือ นายโทโมอากิ ทากาเนซาวะ วัย 45 ปี ซึ่งสังหารเสมียนสองคน ที่ร้านเกมอาร์เคด ในปี 2546 และนายมิตสึโนริ โอโนกาวะ ผู้สมรู้ร่วมคิด วัย 44 ปี
“การจะคงโทษประหารชีวิตหรือไม่นั้นเป็นประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับรากฐานของระบบยุติธรรมทางอาญาของญี่ปุ่น เนื่องจากอาชญากรรมที่โหดร้ายยังเกิดขึ้นคนต่อคน จึงจำเป็นต้องประหารชีวิตผู้มีความผิดอย่างร้ายแรง ดังนั้น ไม่สมควรยกเลิกโทษประหารชีวิต” นายเซอิจิ คิฮาระ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ญี่ปุ่นประหารชีวิตนักโทษครั้งล่าสุด เมื่อปี 2562 จำนวน 3 คน ก่อนหน้านี้ เมื่อ 2561 ประหารชีวิตนักโทษ 15 คน ในจำนวนนี้มี 13 คน จากสาวกลัทธิโอชินริเกียวที่มีความเชื่อวันโลกาวินาศ ลอบโจมตีด้วยก๊าซพิษซารินบนรถไฟใต้ดินในกรุงโตเกียวเมื่อปี 2538 คร่าชีวิต 13 ราย และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 6,200 คน
นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนพ.ย.ปีนี้ นักโทษประหารชีวิต 2 คน กำลังฟ้องร้องดำเนินคดี และเรียกร้องเงิน 22 ล้านเยน (เกือบ 6.5 ล้านบาท) กับรัฐบาลญี่ปุ่น เป็นค่าเสียหายชดใช้ความทุกข์จากการใช้ชีวิตโดยไม่ทราบวันประหารชีวิตที่แน่นอน เนื่องจากนักโทษจะได้รับแจ้งการประหารชีวิตเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งนักโทษทั้งสองแย้งว่า ผิดกฎหมายและสร้างความทุกข์ทางจิตใจต่อนักโทษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: 2 นักโทษแดนประหารญี่ปุ่นฟ้องศาล รู้ล่วงหน้าว่า “ตาย” แค่ไม่กี่ชั่วโมง
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในชาติพัฒนาไม่กี่แห่งชาติที่ยังมีโทษประหารชีวิต ตอนนี้ญี่ปุ่นมีนักโทษมากกว่า 100 คน ที่ยังรอการแขวนคอ ส่วนใหญ่เป็นคดีสังหารหมู่ ขณะที่ประชาชนญี่ปุ่นยังให้การสนับสนุนโทษดังกล่าว แม้จะมีเสียงวิจารณ์จากนานาชาติ รวมถึงจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน