“หลวงปู่พูน” วัดป่าเกษมสุข ถูกฆ่าเผากลางป่า เหลือแค่หัวกับแขน ญาติโยมสะเทือนใจ สิ้นพระนักพัฒนาแห่งชุมชน

วันที่ 3 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองไผ่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้ง มีเหตุพระสงฆ์วัดป่าเกษมสุข หมู่ 8 บ้านท่าเสา ต.เพชรละคร อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ถูกไฟเผาเกือบทั้งร่างเหลือเพียงท่อนบนและศีรษะบางส่วนเท่านั้น จุดเกิดเหตุอยู่ภายในป่าหลังวัดดังกล่าว จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลหนองไผ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเพชรบูรณ์ และอาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูหนองไผ่

ที่เกิดเหตุเป็นป่าชุมชนอยู่ภายในเขตพื้นที่วัด เนื้อที่หลายสิบไร่ จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากศาลาการเปรียญซึ่งด้านล่างเป็นกุฏิเจ้าอาวาส ประมาณ 150 เมตร พบร่องรอยไฟไหม้เป็นบริเวณกว้าง และพบร่างของพระสงฆ์ทราบชื่อต่อมาว่าคือ หลวงปู่พูน ฐิตปุญโญ อายุ 75 ปี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดดังกล่าว สภาพศพลักษณะนอนคว่ำหน้าถูกไฟไหม้เกือบทั้งร่างเหลือเพียงส่วนหัวและไหล่ซ้ายเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกันไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ทำการตรวจสอบและเก็บหลักฐาน

และจากการตรวจสอบภายในห้องและบริเวณกุฏิที่อยู่ของหลวงปู่พูน ซึ่งอยู่ใต้ศาลาการเปรียญ ไม่พบร่องรอยการรื้อค้นหรือต่อสู้กันแต่อย่างใด ชาวบ้านชายรายหนึ่ง เปิดเผยว่า วัดแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ป่าชุมชนห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร มีหลวงปู่จำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว ท่านเป็นพระนักพัฒนา รวมทั้งดูแลรักษาป่าชุมชนที่อยู่ภายในวัด ทำให้วัดร่มรื่น มีต้นไม้ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก

ในทุกๆ เช้า จะมีลูกศิษย์ที่อยู่ในหมู่บ้าน มาขับรถสามล้อเครื่องเพื่อพาหลวงปู่ไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน แต่ในช่วงเช้าที่ผ่านมาลูกศิษย์ได้มาที่วัด เพื่อจะขับรถพาหลวงปู่ไปบิณฑบาตเหมือนเช่นทุกวัน แต่เมื่อมาถึงวัดไม่พบหลวงปู่ จึงได้เดินตามหารอบๆ ศาลาแต่ก็ไม่พบ จึงได้ไปแจ้งให้ผู้ใหญ่ประกาศให้ชาวบ้านมาช่วยกันตามหาเพราะเกรงว่าท่านจะเดินไปเป็นลมอยู่ในป่า กระทั่งมาพบว่าร่างของท่านถูกไฟไหม้เกือบทั้งร่าง

ชาวบ้านรายดังกล่าว ยังได้เปิดเผยอีกว่า เชื่อว่าสาเหตุของการมรณภาพในครั้งนี้ น่าจะเกิดจากการถูกฆาตกรรมอย่างแน่นอน เพราะมีร่องรอยคล้ายถูกลากมาจากบริเวณห้องน้ำมาถึงจุดที่ถูกไฟไหม้ ส่วนสาเหตุนั้นอาจจะมาจากคนร้ายเข้ามาชิงทรัพย์ หรือไม่ก็เข้ามาขโมยทรัพย์สินแล้วหลวงปู่มาเจอ จึงทำร้ายจนมรณภาพ จากนั้นได้ลากตัวหลวงปู่เข้าไปในป่าและจุดไฟเผา เพื่อทำลายหลักฐานและอำพรางคดี

ด้านญาติของหลวงปู่ เปิดเผยว่า หลวงปู่อยู่ที่วัดเพียงรูปเดียว นานๆ จะมีพระจากที่อื่นมาอาศัยอยู่ด้วย แต่ก็อยู่ได้ไม่นานเพราะหลวงปู่เป็นพระที่เคร่งระเบียบวินัยเป็นอย่างมาก แต่ท่านก็เป็นที่เคารพของชาวบ้านทั้งใกล้และไกล ซึ่งก็มักจะมีญาติโยมนำสิ่งของรวมทั้งปัจจัยมาถวายหลวงปู่อย่างต่อเนื่อง และใครเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือจากหลวงพ่อท่านก็ยินดีช่วยเหลือ

สำหรับสาเหตุที่มรณภาพนั้น ตนเชื่อว่าจะต้องเกิดจากการชิงทรัพย์ หรือไม่ก็เข้ามาขโมยของในวัดแล้วหลวงปู่มาเจอพอดี จึงทำร้ายจนมรณภาพ เนื่องจากว่าปัจจุบันในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียงมีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมกันเสพยาบ้า เป็นจำนวนมาก จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้แก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก