ญาติเหยื่อโค้งศาลอาญา เศร้าต้องแบกฝืนเตรียมเผา เชิงตะกอนกลางแจ้ง 3 ศพ เหตุเมรุเล็กเผาได้วันละศพ แม่เผยลูกชาย เพิ่งไปทำงานที่กรุงเทพ หวังรายได้เพิ่ม
จากกรณีเกิดเหตุรถกระบะเสียหลักชนเสาไฟฟ้า มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย เกิดเหตุบนถนนรัชดาภิเษก ขาเข้า ช่วงตรงข้ามศาลอาญารัชดาฯ แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 07.30 น. ที่ผ่านมา ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์นี้ที่มีผู้เสียชีวิต 5 ราย โดยศพของนางกิ่งแก้ว กิมเต็ก อายุ 41 ปี ถูกนำร่างไปฌาปนกิจที่บ้านเกิด จ.ปราจีนบุรี ส่วนอีก 4 ราย เป็นชาวต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ประกอบด้วยนางอนงค์ เกิดรัมย์ อายุ 40 ปี นายฤทธิเกียรติ เปียขุนทศ อายุ 26 ปี นายเทวัญ แก้วกลม อายุ 35 ปี และนายธวัชชัย แก้วกลม อายุ 30 ปี
นางเชย เกิดรัมย์ อายุ 74 ปี แม่ของนายอนงค์ เปิดเผยว่า ปกติลูกชายรับจ้างทั่วไปในหมู่บ้าน ได้ค่าจ้างวันละ 100-200 บาท ก่อนเกิดเหตุได้มีญาติมาชวนไปทำงานที่กรุงเทพฯ ลูกจึงตัดสินใจไปด้วย เพราะได้ค่าแรงสูงกว่าอยู่บ้านแต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้
ด้านนายมนัส ชำนาญกอง อายุ 67 ปี สัปเหร่อ วัดบ้านยาง กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยเผาศพคนในหมู่บ้านครั้งละ 2 ศพ นอกนั้นจะเผาทีละศพเพราะเป็นหมู่บ้านเล็ก มีเพียงครั้งนี้ครั้งแรกที่ต้องเผามากสุดถึง 4 ศพ แต่เมรุของวัดซึ่งเป็นเมรุขนาดเล็ก เผาสูงสุดได้วันละ 1 ศพ
คณะกรรมการวัดจึงประชุมกัน โดยจะเผาในเมรุ 1 ศพ ส่วนอีก 3 ศพจะเผาเชิงตะกอนกลางแจ้ง และทำพิธีพร้อมกันหมดทุกศพ จากที่ได้รับแจ้งมาศพจะเดินทางมาถึงเย็นวันนี้ และจะทำการฌาปนกิจศพในวันจันทร์ต่อไป