'ฌอห์ณ' เผยฤกษ์แต่ง เล่าโมเมนต์คุกเขาขอ 'เพชร' น้ำตาคลอก่อนฝ่ายหญิง

Home » 'ฌอห์ณ' เผยฤกษ์แต่ง เล่าโมเมนต์คุกเขาขอ 'เพชร' น้ำตาคลอก่อนฝ่ายหญิง


'ฌอห์ณ' เผยฤกษ์แต่ง เล่าโมเมนต์คุกเขาขอ 'เพชร' น้ำตาคลอก่อนฝ่ายหญิง

‘ฌอห์ณ’ เผยฤกษ์แต่ง เล่าโมเมนต์คุกเขาขอ ‘เพชร’ น้ำตาคลอก่อนฝ่ายหญิง

‘ฌอห์ณ’ เผยฤกษ์แต่ง / วันที่ 29 ม.ค. 66 ที่ แอ็กซ์ สตูดิโอ จ.ปทุมธานี พิธีบวงสรวงละคร ‘พระนคร๒๔๑๐’ พระเอกหนุ่ม “ฌอห์ณ จินดาโชติ” เดินทางมาร่วมพิธี จากนั้นได้เปิดใจถึงโมเมนต์ที่ขอแฟนสาว “เพชร ภิพัชรา แก้วจินดา” ดีไซเนอร์แบรนด์ดัง แต่งงานที่ฝรั่งเศส เมื่อช่วงตุลาคมปีที่ผ่านมา พร้อมอัพเดตความคืบหน้าการเตรียมงานแต่งงาน และการวางแผนมีทายาท

'ฌอห์ณ' เผยฤกษ์แต่ง

กับข่าวดีที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง? “ตอนนี้เหลือแค่ไฟนอลพอดีคุณเพชรเขาคิวแน่นทั้งปีเลย (ยุ่งกว่าเราอีก?) ยุ่งกว่าครับ ธุรกิจแฟชั่นเขาไปได้ดี ก็ไปหลายๆ ประเทศ ตอนนี้ก็อยู่ฝรั่งเศส เดี๋ยวกลับมาก็ไปเปิดที่ญี่ปุ่นอีก คิวเราก็เลยต้องดูว่าไหวไหม จังหวะพอดีกับเขาหรือเปล่า คิวเรายังพอรู้แพลนกับผู้จัดการแล้วว่าจะรับงานช่วงไหน เบรกช่วงไหน”

ฤกษ์ได้ช่วงไหน? “ต้นปีแรกคงจะไม่ทัน เพราะคุยกันไว้ตั้งแต่วันขอว่าต้นปีไม่ทัน เราเพิ่งเปิดกล้องเรื่องหนึ่ง ช่วงนี้ก็เป็นช่วงโปรโมตละคร ที่บอกว่าเวลาทำการสู่ขอไม่ใช่แค่หาวันอย่างเดียว ต้องหาแพลนเนอร์ ต้องลิสต์รายชื่อแขก เรามีญาติหลายท่านด้วย ก็น่าจะเป็นช่วงกลางๆ ถึงปลายปี”

จ้างเว็ดดิ้งแพลนเนอร์? “จริงๆ คุยกันว่าจะพยายามออแกไนซ์กันเองให้มากที่สุด คุณเพชรเขาก็ถนัดเขามีความสามารถในการจัดอีเวนต์เวลาเขาจัดแฟชั่นโชว์ เราก็ทำโปรดักชั่นก็น่าจะช่วยกันได้”

ตื่นเต้นมากขนาดไหน? “ตื่นเต้นมาก แต่เป็นความตื่นเต้นที่มีความสุข เป็นช่วงเวลาที่ดี ผมรู้สึกว่าคุณเขาก็มีความสุข เพราะทุกครั้งเวลาเราถ่ายละครเสร็จ เราก็จะนัดหมายกัน ว่า 4-5 ทุ่มเราต้องมานั่งแพลนกัน นั่งดูเรฟเฟอเรนซ์ ดูมู้ดแอนด์โทนภาพที่เราจะวาง หรือบรรยากาศที่เราต้องการ แต่ละสัปดาห์เราอัพเดตกันอยู่เสมอ ก็เป็นหนึ่งท็อปปิกที่เราได้คุยกัน เพราะมันแค่วันเดียวนะครับ ก็อยากให้ดีที่สุด ซึ่งมันมีทั้งงานหมั้น งานเย็น มีทั้งการพระราชทานน้ำสังข์ มันก็จะมีหลายขั้นตอนครับ ถามว่างานใหญ่ไหม เรียกว่าญาติคุณเขาเยอะ ถึงบอกว่าเป็นช่วงที่มีความสุข เป็นช่วงที่เราที่เป้าหมายอย่างชัดเจน เราอยากทำงานเท่าที่สรรพกำลังเราจะทำได้ เพื่อที่จะจัดงานให้ได้”

'ฌอห์ณ' เผยฤกษ์แต่ง

มู้ดแอนด์โทนจะเป็นยังไง? “คุณกับผมเทสคล้ายๆ กัน เรามีคอนเซ็ปต์แล้ว แต่ก็ไม่กล้าบอกเยอะ เดี๋ยวมันเปลี่ยนแล้วจะไม่ตรงปก แต่ผมว่าด้วยรสนิยมคุณเขาดีอยู่แล้ว ฉะนั้นผมมีหน้าที่แค่ช่วยเกลาหรือตบให้มันซื้อหรือไม่ซื้อเท่านั้นเอง”

เรียนรู้เองและมีเพื่อนๆ แนะนำยังไงบ้าง? “คือตั้งแต่วันที่ขอแต่งงานไป ก็มีเพื่อนๆ พี่ๆ มาให้ความช่วยเหลือ แนะนำเยอะ ทั้ง นิว ชัยพล พูพาร์ต, โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล, แอริน ยุกตะทัต แล้วช่วงนี้เราไปงานแต่งทุกสัปดาห์ เราก็เหมือนได้ไปดูงาน ว่านี่คือสิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า นี่คือเราอยากได้บรรยากาศแบบนี้ไหม ทุกคนให้ความช่วยเหลือ ให้คอนเน็กชั่นมาเยอะครับ แต่สุดท้ายมันก็อยู่ที่เราสองคน คุยกับเขาชัดเจนตั้งแต่วันที่ขอแล้ว ว่ามันคือวันของเราสองคน ทำในสิ่งที่เราต้องการมากที่สุด สิ่งแวดล้อมเป็นแค่องค์ประกอบในการตัดสินใจ”

ย้อนถามเล่าโมเมนต์วันขอแต่งงาน เห็นว่าน้ำตาคลอเลย? “ผมตื่นเต้นนะ ตื่นเต้นมากๆ มันเป็นขั้นตอนที่เราแพลนมาอยู่แล้ว แต่หน้างานมันไม่ตรงกับในละครที่เราเคยเล่น บทพูดผมก็ลืมไปหมด เป็นความรู้สึกล้วนๆ แต่สุดท้ายมันก็เป็นสิ่งที่เราภูมิใจมากๆ ว่าน้ำพักน้ำแรงเรา การที่เราตั้งใจทำอะไรเพื่อคนๆ หนึ่ง แล้วมันเป็นความรู้สึกดีๆ นะ (น้ำตาซึมเลย?) แล้วจริงๆ ผมน้ำตาคลอก่อนเขาด้วยซ้ำ เพราะรู้สึกว่าแหวนมันมีความหมาย เราค่อยๆ เก็บหอมรอมริบมัน แล้วมันเป็นสถานที่ที่คุณเขาเติบโตอีก ปารีสอีก ญาติเขามา ญาติเรามา มันเลยมีความหมายมากครับ”

เขาต้องการอะไรเราเลยอยากทำแบบนั้นใช่ไหม? “เป้าหมายคือเขาเป็นหลักแหละ แต่ที่สำคัญคือมันเป็นสิ่งที่เราต้องอินด้วย ถ้าเราทำให้เขาเป็นหลักโดยที่เราไม่อิน ผู้หญิงเขาก็รับสารได้ว่าเธอทำเพื่อฉันแต่เธอไม่มีความสุข อย่างปารีสคือมันเป็นที่ที่เขาเรียน แล้วเขาทำงานที่นั่นมาก่อน มันเป็นที่เดียวที่ผมกับเขายังไม่เคยไป มันเป็นบ้านยายเขาที่เขาเติบโต ผมก็อินกับยายเขา ผมรู้สึกทุกอย่างมันพอเหมาะพอเจาะ แล้วเขาก็ยังบอกว่าขอบคุณที่ขอที่นี่ ในห้องนี้ มันดีที่สุดไปกว่าวันนี้ไม่ได้แล้ว พอเราทั้งคู่อิน ผลลัพธ์มันก็ออกมาดีครับ”

'ฌอห์ณ' เผยฤกษ์แต่ง

คิดภาพความเป็นสามีไว้ยังไงบ้าง? “ผมไม่กล้าตอบว่าเราจะเป็นสามีที่ดีขนาดนั้นมั้ย หรือเป็นพ่อที่ดีขนาดนั้นมั้ย ทุกวันคือการเรียนรู้ แต่ผมรู้ว่าผมมีเจตนาที่ดีที่จะทำให้เขา เขาก็มีเจตนาที่ดี ทำให้เรามีความสุข ผมคิดว่าวันหนึ่งที่เราพร้อมที่จะมีบุตร เราก็จะสอนในสิ่งดีๆ ที่เราเรียนรู้มาจากครอบครัวเรา คุณเขาเองก็ได้รับการดูแลที่ดีจากครอบครัวของเขา ผมคิดว่าเราน่าจะเป็นครอบครัวที่ดี และเราขยันทำมาหากินครับ เราไม่เคยนอนเฉยๆ ผมว่ามันน่าจะเป็นบรรยากาศที่ดีของครอบครัว”

วางแผนเรื่องการใช้ชีวิตครอบครัวไว้แล้ว? “วางแผนครับ แต่การแสดงยังรับอยู่ ยังไม่ทิ้ง แต่อาจจะไม่ได้แน่นเหมือนเมื่อก่อน เพราะเรามีความรับผิดชอบมากขึ้น บริษัทโปรดักชั่นเรากำลังเติบโต คุณเขาเองด้วย แล้วงานแต่งเราก็ต้องเตรียม อาจจะไม่ได้เห็นผมหน้าจอทุกซีซั่น อาจจะปีหนึ่ง 1-2 เรื่อง แต่อาชีพนี้ทำให้เรามาถึงวันนี้ ทำให้ผมได้เจอคุณเขา ยังไงผมก็ไม่ทิ้ง แต่ก็ต้องทำอย่างอื่นประกอบ จากแฟนกันตอนนี้เป็นคู่หมั้นแล้ว เดี๋ยวอีกไม่กี่เดือนเราก็จะเป็นสามี วันหนึ่งเราก็จะเป็นพ่อ ผมคิดมา 8 เดือนก่อนที่จะขอเขาแต่งงาน ฉะนั้นผมต้องคิดมากกว่าแค่ปีนี้และปีหน้า คิดไปอีกหลายๆ ปี”

แต่งแล้วแพลนมีลูกกันเลย? “ถ้าแต่งแล้วคุณเขาต้องมาก่อน เพราะไม่งั้นเราจะแต่งกันทำไม เราก็อยู่กันสถานะเดิม ถ้าแต่งแล้วเราคือครอบครัวเดียวกัน เรื่องของเขาคือเรื่องของเรา ครอบครัวเขาคือครอบครัวเรา เพราะฉะนั้นจุดประสงค์มันต้องเป็นเขา เหตุผลของการแต่งงาน นอกจากจะอยู่ร่วมกันอย่างเหมาะสมและดูไม่น่าเกลียด นั่นคือการเตรียมมีลูกอย่างถูกต้องครับ แต่คิดว่าหลังแต่งค่อยว่ากัน ว่าช่วงไหนเหมาะสม ต้องดูร่างกายเขาด้วย”

มีการฝากไข่ไว้แล้ว? “จริงๆ ฝากไข่มาก่อนแล้วครับ เราเตรียมมาก่อนแล้ว ผมว่าด้วยคุณเขาห่างกับผมแค่ปีเดียว ตั้งแต่วันแรกที่คบกันเขาก็เป็นลูกครึ่งอะ ชัดเจนว่าคบกันหวังไปถึงจุดไหน เพราะถ้าไม่หวังเขาเสียเวลา ยิ่งผู้หญิงอายุมากขึ้น มันยากกับการมีบุตรครับ เราก็ต้องคิดเผื่อ แล้วพวกเราก็จริงจัง เราอาจจะเจอกันในช่วงโควิด แต่เราก็พยายามอัดที่สุดในช่วงโควิด คือสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างความชัดเจน ก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราอยู่ด้วยกันเยอะ เราเลยเห็นนิสัยกัน และเลือกที่จะดำเนินชีวิตด้วยกัน”

เรื่องเวลา ฝ่ายผู้หญิงเองก็ทำงานเยอะมาก? “มันไม่ง่าย แต่ไม่ใช่ให้มันเป็นปัญหา มันไม่ง่ายสำหรับผมแล้ว ผมถ่ายละครถ้าเป็นตัวหลัก เลิก 4 ทุ่ม นัด 7 โมง โทรศัพท์แทบไม่ได้จับ อันนั้นก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ผมต้องปรับตัว คุณเขาเองบินทีก็ 10-15 วัน แต่ผมก็ต้องคุยว่าอันไหนสำคัญผมจะไปช่วย อันไหนที่เขาต้องการเราก็จะไป ไม่ใช่เอาแต่งานๆ ไม่ได้ เราเลือกเขามาแล้ว เรื่องเขาก็สำคัญ แต่เราต้องฉลาดที่จะบาลานซ์งานกับชีวิตส่วนตัว ถ้าเราเทให้งานหมด ชีวิตส่วนตัวเราแย่ คุณภาพชีวิตเราก็แย่ หรือเราให้ความรัก แต่งานเราไม่รับผิดชอบ เงินก็ไม่มา ผู้ใหญ่ก็ไม่จ้าง ฉะนั้นผมไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา แต่มันเป็นความยากที่ทุกคนต้องปรับ คุณเขาก็ต้องปรับไม่ใช่ผมคนเดียว”
'ฌอห์ณ' เผยฤกษ์แต่ง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ