ขออนุญาตเป็นสามี ฌอห์ณ จินดาโชติ สุดตื้นตัน พิธีสู่ขอแฟนสาว ย้อนเล่าโมเมนต์ขอแต่งกลางกรุงปารีส
หลังจากที่พระเอกหนุ่ม ฌอห์ณ จินดาโชติ ได้ทำเซอร์ไพรส์ขอแฟนสาวดีไซเนอร์ เพชร ภิพัชรา แก้วจินดา แต่งงานที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และได้ไปสู่ขอแฟนสาวกับคุณพ่อคุณแม่ฝ่ายหญิงอย่างเป็นทางการแล้ว บรรยากาศการเจอกันของทั้งสองครอบครัวเต็มไปด้วยความอบอุ่น ท่ามกลางความยินดีจากเพื่อนพี่น้อง และแฟนคลับเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 65 มีโอกาสเจอ หนุ่มฌอห์ณ ที่มาร่วมงานบวงสรวงเปิดตัว 5 ซีรีส์ดัง ของ ‘ทรู ซีเจฯ’ เรื่อง Emergency Couple ณ ทรูดิจิทัล พาร์ค (สุขุมวิท 101) ได้เปิดใจถึงเรื่องที่ไปสู่ขอแฟนสาวกับพ่อแม่อีกฝ่ายแล้ว รับคำอวยพรจากญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย พูดคุยเรื่องแต่งงาน พร้อมย้อนเล่าโมเมนต์สุดตื้นตัน ขอแฟนสาวแต่งงาน ที่กรุงปารีส ทุกอย่างมีความหมาย เต็มไปด้วยรายละเอียดลึกซึ้ง
มีภาพสู่ขอแฟนสาวแต่งงาน? “เป็นการนัดญาติผู้ใหญ่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน ผมว่ามันเป็นธรรมเนียมที่ดีหลังจากมีการสู่ขอแล้วก็อยากให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมาเจอกัน ว่าพ่อแม่แต่ละฝ่ายเป็นยังไงบ้าง มีการนัดแนะแจ้งให้ทราบว่าความเป็นไปได้ในการแต่งงานจะจัดอะไรยังไง พ้อยต์ก็คือเหมือนมานั่งกินข้าว รับคำอวยพรจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายครับ”
ได้ฤกษ์แต่งหรือยัง? “ยังไม่ได้คุยรายละเอียดครับ คุยแค่ลักษณะธีมงาน รอฤกษ์อยู่ ต้องดูคิวของคุณเพชรด้วย เรากำลังเอาปฏิทินคิวงานของปีหน้ามากางกันว่าช่วงไหนซีเรียสสุดของเขาที่เขาต้องบินไปต่างประเทศ และช่วงไหนที่เราซีเรียสสุด แล้วเอาช่วงที่เราว่างหรือเหมาะสมค่อยไปดูฤกษ์”
ไปดูฤกษ์มาบ้างหรือยัง? “จริงๆ แอบดูมาบ้าง ไปเช็กหลายๆ ที่ว่าตรงกันมั้ย มันก็เป็นความเชื่อส่วนตัว เวลาเราบวชเรายังดูฤกษ์ ฤกษ์สึกก็ดู คือคุณเพชรเขาอาจจะแล้วแต่ ผมขอลองไปดูหน่อย แต่สุดท้ายแล้วก็เอาฤกษ์สะดวกเขาด้วย ก็คิดว่าภายในปีหน้า ปีนี้ไม่ทันจริงๆ”
ว่าที่เจ้าสาวเราเป็นยังไงบ้าง? “เราทั้งคู่มีความสุขกันมากๆ ผมว่าช่วงที่ตื่นเต้นที่สุดคือ น่าจะเป็นช่วงที่เราอยู่ปารีสกัน เพราะผมกุมความลับมาเกือบทั้งปี หลังจากที่เจอพี่ๆ สื่อตั้งแต่ต้นปีว่าคนนี้มั้ย เราตอบแล้วมันเป็นช่วงเก็บหอมรอมริบ แพลนงานทั้งหมดว่าเมื่อเราขอผู้หญิงคนนี้แล้ว เราต้องดำเนินด้วยกันอย่างไรบ้าง แล้ววันนั้นเป็นช่วงกุมความลับเยอะ พอมันผ่านพ้นไป มันเหมือนสถานะเราเปลี่ยน ผมรู้สึกได้ว่าเขามีความสุขมากๆ เขาภูมิใจมากกับแหวนที่เขาได้ เขาดีใจ เขาชอบมันมาก”
ย้อนไปโมเมนต์ขอแฟนแต่งงาน เป็นยังไงบ้าง? “ผมตื่นเต้นมากที่สุดครับ เพราะว่าเราเดินทางกันมา 10 กว่าวันแล้ว เราก็ทำตัวปกติ เรารู้ว่าวันนี้คือวันที่เราจะขอ เขาไม่รู้ เราก็ไปกินข้าวเป็นช่วงวันเกิดผมพอดี พาไปเลี้ยงข้าว เราเข้าไปที่บ้านคุณยายเขา คุณยายเขาไม่อยู่เพราะเราเตี๊ยมกับคุณยายว่าเราจะคุยกับเขาสองต่อสอง จังหวะที่จะเริ่มคุย ผมลืมไปหมดเลยว่าผมต้องพูดอะไร แล้วอยู่ดีๆ มันก็เป็นความตื้นตัน มันเป็นครั้งเดียวในชีวิต”
“พอจังหวะหยิบแหวนเราก็น้ำตาคลอ เขาก็ตกใจ ถามว่าอันนี้จริงหรือเปล่าพี่ฌอห์ณ เวลาแล้วใช่มั้ย เราก็บอกขออนุญาตเป็นสามีเราได้มั้ย เพราะว่าผมเรียกเขาว่า เรา ตลอด ผมเรียกเขาอย่างนั้น ต่างคนต่างน้ำตารื้นเยอะเหมือนกัน ผมก็เขินๆ (ยิ้ม) พูดแล้วก็ยังคิดถึงวันนั้น มันเป็นวันที่ผมรู้สึกว่ามันเปลี่ยนชีวิต อบอวลไปด้วยความสุข”
“มันเซอร์ไพรส์อีกรอบนึง จังหวะที่ทุกคนเปิดประตูเข้ามาแล้วมาล้อมในห้องรับแขก เขาก็ยิ่งร้องไห้ กิมมิกของผมก็คือการขอเขา คือที่นี้เป็นที่ที่เขาเติบโต เขาเติบโตที่ปารีสและทำงานที่นั่นมายาวนานมากๆ แล้วผมรู้สึกว่าที่ที่นี้ทำให้เขาเป็นเขามาได้เยอะขนาดนี้ มันคงดีถ้าเราจะเริ่มต้นชีวิตของเราในที่ที่มันทำให้เขาเติบโตมาด้วย”
เราวางแผนมาเยอะมาก? “ผมรู้สึกว่าเรามีโอกาสแค่ครั้งเดียว แล้วผู้หญิงจะมีโอกาสถูกขอแต่งงานแค่ครั้งเดียว แล้วครั้งนั้นเราต้องเล่าไปอีก 20-30 ปี มันควรจะเป็นเรื่องราวที่เราและเขาต่างรู้กันดีว่ามันมีความหมายแค่ไหน เคยแอบถามมาก่อนแล้วเวลาเราดูหนังฉากขอแต่งงาน เขาก็เคยบอกเรื่องนี้ฉากที่ขอในบ้านเขาชอบสุด”
“เขารู้สึกว่าสุดท้ายมันเป็นเรื่องของเราสองคน เราอยากอยู่ฟังกันให้ชัด เขาบอกชอบแบบนี้ เราก็เลยจำมาตลอดว่าเราจะขอแบบนี้ แล้วที่นี่เป็นที่ที่เขาเล่าให้ผมฟังเสมอ แล้วผมยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปปารีสกับเขา ก็เลยสร้างกิมมิกว่าให้เขาพาเที่ยวแล้วก็ขอที่นั่น ผมรู้สึกว่ามันพอเหมาะพอเจาะ”
เป็นคนเก็บรายละเอียดได้ดีมาก พอถึงงานแต่งจะละเอียดมากกว่านี้มั้ย? “เหมือนไปสร้างมาตรฐานไว้ ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนชอบรายละเอียด แล้วเรารู้สึกว่ามันเป็นครั้งเดียวจริงๆ ครั้งเดียวของผมและครั้งเดียวของเขา เราอยากให้เขาแฮปปี้ที่สุด เขาก็ยังพูดกับผมว่าชีวิตของเราเปลี่ยนคือวันที่เราสู่ขอ วันที่เราขอ เพราะหลังจากนั้นมันคือพิธีการ ฉะนั้นโมเมนต์ที่เรารู้กันอยู่สองคนมากที่สุด คือขอ ผมก็อยากให้เป็นโมเมนต์ที่เขาชอบที่สุด แล้วผมก็ชอบเหมือนกัน”
จุดที่ทำให้รู้สึกว่าต้องขอผู้หญิงคนนี้แต่งงานแล้ว? “คบกับเขามาไม่มีความสงสัย ไม่มีคำถาม มีแค่คิดเสมอว่าอยากอยู่กับเขามากๆ อยากให้เกียรติเขา อยากทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง การแต่งงานมันคือการสร้างครอบครัว เราอยากสร้างครอบครัวกับเขา เราอยากให้เกียรติเขาไปไหนด้วยกัน อยู่ร่วมกันได้อย่างมีสถานะที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด”
“มันเป็นความโชคดีของผมมาก ถ้าผู้หญิงคนนี้เป็นแม่ของลูกผม ก็อยากให้เขาเป็นภรรยาของเรา มันคิดไม่เยอะเลยครับ ตั้งใจเก็บเงินรู้ตั้งแต่เป็นแฟนกันก็ตั้งใจอย่างเดียวว่าจะเก็บหอมรอมริบ จะขอเขาในวันที่พร้อมที่สุดในสิ่งที่เขาต้องการที่สุด”
แหวนที่ให้เขามีความหมายยังไงมั้ย? “มีครับ มันเป็นแหวน Custom มันมาจากสิ่งที่เขาชอบหมดเลย เขาชอบทองด้าน เขาเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์ ผมรู้เลยว่าเขาไม่ชอบอะไรที่มันเรียบ เขาไม่ชอบอะไรที่มันหรูหราอะไรมาก มันเป็นรูปดาวหางครับ กิมมิกก็คือเรามักจะชอบช่วงเวลาของการไปดูดาวกันบ่อย เราชอบเวลาดาวตก ดาวหาง แล้วอธิษฐาน”
“เรารู้สึกว่าความโชคดีที่เราเจอเขา มันเหมือนกับดาวตกมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยแล้วคุณต้องคว้าโอกาสนั้นให้ทัน ผมรู้สึกว่าเขาคือดาวตกที่ดีของผมมากๆ แหวนก็มาจากช่วงเวลาที่เราตั้งแต่มั่นใจ เราอยากขอ เราก็เก็บหอมรอมริบได้เท่าไหร่ก็ทำแบบนั้น แล้วข้างในสลักชื่อถนนที่สู่ขอ เลขที่บ้าน เมือง คิดไว้แล้วว่าต้องขอที่นี่นะ เขาก็เลยยิ่งอินครับ มันตีความมาให้เขาแล้ว”
เริ่มเคลียร์คิวงานเพื่อเตรียมงานหรือยัง? “จริงๆ ยังไม่ได้เคลียร์มาก อย่างเรื่องนี้เป็นคิวที่ดีลมาก่อนขอ ตอนนี้คนที่น่าจะเหนื่อยคือผู้จัดการว่าจะเอายังไง แพลนชีวิตยังไง งานบริษัทจะยังไง เป็นช่วงของการวางแผนครับ ส่วนงานละครถ้าเป็นเรื่องต่อไปอาจจะเป็นปลายปีหน้าเพราะว่าต้องทำหลายอย่างจริงๆ ครับ”