ฉก.ร.25 กกล.เทพสตรี จับ3หนุ่มระนอง ลักลอบขนยางพาราเถื่อน จากเมียนมา ขายพ่อค้าไทยของกลางจำนวน 2,000 กิโลกรัม

เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 เมษายน 2566 พ.อ.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีขบวนการขนยางพาราเถื่อน ลักลอบนำยางพาราแผ่นดิบ ข้ามแดนจากฝั่งประเทศเมียนมา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ด้าน อ.กระบุรี จ.ระนอง จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ร่วมกับทหารจุดตรวจศิลาสลัก กองร้อยทหารราบที่ 2521 แบ่งกำลังเข้าทำการซุ่มจับกุมการกระทำผิดการลักลอบขนสินค้าการเกษตร โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร ในพื้นที่เป้าหมาย บริเวณริมแม่น้ำกระบุรี

ต่อมาตรวจพบ เรือหางยาวติดเครื่องยนต์ บรรทุกยางพาราแผ่นข้ามมาจากฝั่งประเทศเมียนมา มาเทียบบริเวณริมตลิ่งฝั่งไทย พื้นที่ ม.4 ซอยเขาชัน บ.ทับจาก ต.บางใหญ่ อ.กระบุรี จ.ระนอง จากนั้นมีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า ตอนเดียวเสริมรั้วสูง สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กทม. ขับเข้ามาจอดติดกับแม่น้ำกระบุรี ริมตลิ่งฝั่งไทยและเห็นกลุ่มคนเป็นชาย จำนวน 7 คน ได้ช่วยกันขนยางพาราแผ่นจากเรือมาขึ้นรถคันดังกล่าวอย่างรวดเร็ว เมื่อยางพาราเต็มท้ายกระบะรถได้เร่งเครื่องยนต์ออกจากจุดขนถ่าย ออกจากแนวชายแดน เพื่อตรงไปยังร้านรับซื้อยางพารา ในตัว อ.กระบุรี

แต่เจ้าหน้าที่สามารถไล่ติดตาม และสกัดจับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ไว้ได้บนถนนซอยเขาชัน ห่างจากท่าเรือบ้านทับจาก ต.บางใหญ่ อ.กระบุรี จ.ระนอง ประมาณ 2 ก.ม. ก่อนให้คนขับรถยนต์ นำรถยนต์กระบะที่บรรทุกยางพาราพาราเถื่อน กลับมาที่ท่าเรือในจุดเกิดเหตุ เพื่อทำแผนการจับกุม โดยคนขับรถ ทราบชื่อต่อมา นายดำ(นามสมมุติ) อายุ 56 ปี มีภูมิลำเนา อยู่ ม.4 ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น จ.ระนอง ให้การยอมรับสารภาพ เป็นผู้กระทำความผิด พร้อมของยางพาราแผ่นดิบ น้ำหนัก 1,500 ก.ก.ที่บรรทุกมาในท้ายรถยนต์กระบะ เตรียมส่งขายให้กับผู้ประกอบการรับซื้อยางพาราใน อ.กระบุรี จ.ระนอง

และในเวลาถัดมา เจ้าหน้าที่สามารถ ตรวจพบเรือหาง จำนวน 1 ลำ บรรทุกยางพาราแผ่นข้ามแม่น้ำกระบุรี มาจากฝั่งประเทศเมียนมา ตรงมายังพื้นที่บริเวณท่าหัวถนน ม.5 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง และมีรถจักรยานยนต์ 3 ล้อ พ่วงข้าง จำนวน 2 คัน ขับเข้ามาจอดและมีกลุ่มชายประมาณ 5 คน ได้ช่วยกันยกยางพาราแผ่นจากเรือขึ้นรถดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม เรือลำดังกล่าวเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่จึงรีบถีบหัวเรือออกจากริมลำน้ำกระบุรีฝั่งไทย แล่นข้ามกลับไปฝั่งประเทศเมียนมา

เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ จำนวน 2 คน ทราบชื่อต่อมา นายแดง(นามสมมุติ) อายุ 46 ปี ที่อยู่ ม.4 บ.ทับจาก ต.บางใหญ่ อ.กระบุรี จ.ระนอง และนายขาว(นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ที่อยู่ ม.3 ต.น้ำจืด อ.กระบุรี จ.ระนอง พร้อมของกลางยางพาราแผ่น รวมน้ำหนัก 500 กก. และรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จำนวน 2 คัน

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้กระทำความผิดทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพว่า ยางพาราแผ่นดิบ ดังกล่าว ได้รับซื้อข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจริง เพื่อนำไปขายต่อให้กับผู้ประกอบการรับซื้อยางพารา ในราคา ก.ก.ละ 43 บาท รวมของกลางยางพาราแผ่นทั้งสิ้นน้ำหนัก 2,000 ก.ก. มูลค่าร่วม 86,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้กระทำผิดและทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ส่งด่านศุลกากร จ.ระนอง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป