กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ซีไอบี) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) นำกำลังเข้าจักกุมนายณัฐพงศ์ แตงสุวรรณ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว ที่ศุนย์การค้าแห่งหนึ่งใน ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันพฤหัสบดี (21 ก.ย.)
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ซีไอบี ได้รับร้องเรียนจากผู้ประกอบการใน ต.บางแก้ว ว่ามีผู้บริหารระดับสูงของเทศบาลเมืองบางแก้วเรียกรับสินบนจากผุ้ประกอบการ 25% ของวงเงินตามสัญญา แลกกับการอนุมัติหนังสือคู่สัญญาในโครงการจัดซื้อจอ LCD (แอลซีดี)
บริษัทผู้เสียหายได้ยื่นเสนอราคาแข่งขันในระบบเสนอราคาออนไลน์ (อีบิดดิง) และมีการแจ้งผลการแข่งขันราคาเมื่อวันที่ 30 ส.ค. และเป็นผู้ชนะการเสนอราคา
ปรากฏว่าถูกทางผู้บริหารของเทศบาลเมืองบางแก้วเรียกเข้าไปคุยเจรจาพร้อมขอเงินค่าหนังสือคู่สัญญาที่นายกเทศมนตรีจะต้องเป็นผู้ลงนาม จำนวน 25% ของวงเงินตามสัญญาที่หักค่าภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว 12,485,046.27 บาท โดยให้จ่ายก่อนครึ่งหนึ่ง คิดเป็นเงินจำนวน 1,560,630.84 บาท ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมต่อผู้เสียหาย จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.
การสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอเชื่อได้ว่า นายณัฐพงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองบางแก้ว มีพฤติการณ์ร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินตามที่ผู้เสียหายมาร้องทุกข์ และเห็นว่าผู้กระทำผิดเป็นถึงเจ้าหน้าที่รัฐระดับผู้บริหาร ของเทศบาลเมืองบางแก้ว ซึ่งได้ใช้ตำแหน่งอำนาจหน้าที่ในทางมิชอบและโดยทุจริตเรียกรับสินบนจากผู้เสียหายดังกล่าว ประกอบกับมีข้อมูลว่าเคยมีพฤติกรรมเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกันกับผู้ประกอบการอื่นมาแล้วหลายราย
เหตุนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ประสานความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อใช้วิธีวางแผนเข้าจับกุมในขณะที่ทำการส่งมอบเงินกัน โดยได้นัดหมายให้ผู้เสียหายนำเงินสดจำนวน 1,560,630.84 บาทมาลงบันทึก ปจว.ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อใช้ในการส่งมอบให้นายณัฐพงศ์ตามที่มีการเจรจากันก่อนหน้านี้
กระทั่งถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป. ได้นัดให้ผู้เสียหาย นำเงินสดที่ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานแล้วไปส่งมอบให้กับนายณัฐพงศ์โดยมีเจ้าหน้าที่ ปปป. และปปช. ปปท. วางกำลังซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณโดยรอบ ก่อนที่จะมีการส่งมอบเงินตามที่มีการเจรจากันไว้
จากนั้นขณะที่นายณัฐพงศ์กำลังเดินออกมาจากศูนย์การค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว เพื่อเข้าจับกุม แต่ทันใดนั้น นายณัฐพงศ์รีบวิ่งไปบริเวณรถของตนเอง ก่อนจะรีบโยนถุงสีดำ ซึ่งภายในบรรจุเงินของกลางเข้าไปบริเวณใต้ท้องรถ เจ้าหน้าที่จึงรีบควบคุมตัวนายณัฐพงศ์ไว้ทันที
จากการตรวจสอบภายในถุงสีดำ ดังกล่าว พบเงินสด 1,560,650 บาท มีหมายเลขบนธนบัตรตรงกับหมายเลขธนบัตรที่ ลง ปจว.ไว้ทุกฉบับ จึงได้แจ้งพฤติการณ์และข้อกล่าวหาให้นายณัฐพงศ์ พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ จากนั้นนำตัวผู้ต้องไปตรวจค้นที่ห้องทำงาน และสถานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสวนสวน บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ส่วนคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา