เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ทัพนักกีฬาไทยใน “พาราลิมปิกเกมส์ 2016” ที่ กรุงริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล พวกเขาฝ่าด่านหินของการชิงชัย และสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาได้ 6 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง จบด้วยอันดับที่ 23 ในตารางเหรียญรางวัล
ซึ่งนับว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของทีมนักกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ของไทย ทั้งอันดับและจำนวนเหรียญรางวัลที่ได้รับ แน่นอนว่าทุกหยาดเหงื่อของพวกเขา บนความยากลำบากทางร่างกาย ได้ประจักษ์ชัดเจนถึงความเป็นหัวใจนักสู้ของพวกเขาเหลือเกิน
หลังจากภารกิจที่พวกเขาทำสำเร็จ ทุกคนก็ยังคงเดินหน้า เพื่อสานฝันให้ตัวเองต่อเนื่อง และพวกเขาเองก็ต่างหวังใจว่า จะได้กลับมาสู่เส้นทางการแข่งขันอีกครั้งในดินแดนอาทิตย์อุทัย ที่กำลังจะมาถึงในไม่กี่วันข้างหน้า
ขึ้นชื่อว่า “นักกีฬา” การได้เป็นตัวแทนของประเทศ มันคือความหวังที่พวกเขาแบกไว้บนไหล่ มันหนักหนาสาหัสไม่น้อย เมื่อโชคชะตาในช่วงนี้ ทำให้พวกเขาต้องลงซ้อมอย่างหนัก ในสถานการณ์ของโรคระบาด อย่าง โควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักไปทั่วประเทศ
ทุกอย่างจึงถูกกำหนดบนตารางซ้อม การเก็บตัว และทุกสิ่งคืออย่างเคร่งครัดและทวีความยากลำบากขึ้นไปอีก
มาถึงวันนี้ พวกเขาก็ได้ทำมัน ทั้งการซุ่มซ้อม และฝึกฝนในสิ่งที่ตัวเองรักและเป็นทุกความหวังของการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น ในระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน 2564 นี้ อย่างสมบูรณ์และพร้อมออกไปลุยกับการแข่งขันในระดับโลก
กำลังใจจากแฟนกีฬา ที่ส่งมอบให้พวกเขา ผมเชื่อว่ามากมายเหมือนเช่นทุกครั้ง และคนไทยทั้งชาติก็พร้อมส่งทุกแรงเชียร์ผ่านหน้าจอทีวีให้พวกเขาได้สู้กับนักกีฬาระดับโลก
ไม่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ดำรงอยู่ และต้องก้าวไปพร้อมๆกัน คือแรงสนับจากภาพเอกชน ซึ่งน่าดีใจแทนพวกเขา ที่เครือเจริญโภคภัณฑ์พร้อมด้วยบริษัทในเครือ ได้เข้ามาเคียงข้างและสนับสนุนพวกเขาอย่างเต็มที่
ล่าสุดทาง เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ประกาศชัดเจนว่า พร้อมจะเดินหน้าสนับสนุนนักกีฬาไทยในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านเสบียงอาหาร ที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ต่อตัวนักกีฬาคนพิการไทยเหลือเกิน แว่วมาว่าการสนับสนุนดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเก็บตัวฝึกซ้อมมาแล้ว
นอกจากนี้ ทางซีพีเอง ยังได้มอบซิมโรมมิ่งจากทรูมูฟ เอช ที่สามารถโทรออก รับสาย ส่งข้อความ ใช้ดาต้าโรมมิ่งได้ไม่อั้น เพื่อให้พวกเขาได้พูดคุยกับครอบครัว เพื่อสร้างกำลังใจให้กับเขาได้ออกไปแข่งขันด้วยความพร้อมในทุกๆด้าน
นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า “เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความภูมิใจที่ได้รับเกียรติในการเป็นผู้สนับสนุนหลักด้านอาหารและการสื่อสารแก่นักกีฬาไทยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยเครือฯ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืน และยึดมั่นในค่านิยม 3ประโยชน์ มุ่งสร้างสรรค์ประโยชน์ แก่ประเทศชาติ สังคม และให้ความสำคัญกับการสนับสนุนด้านการกีฬามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา”
“แม้ขณะนี้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเครือซีพี ที่ยังคงมุ่งมั่นเคียงข้างสนับสนุนนักกีฬาไทยในการเดินทางไปแข่งขันมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ศึกพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 ถึงแม้จะไม่สามารถส่งเสบียงอาหารไปให้นักกีฬาไทยในการเดินทางไปทำศึกถึงประเทศญี่ปุ่น แต่ได้ปรับรูปแบบการสนับสนุนให้เข้ากับสถานการณ์ โดยนำศักยภาพของกลุ่มธุรกิจในเครือฯ ได้แก่ ซีพีเอฟ ซีพี ออลล์ และ ทรู คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนด้านอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้แก่ทัพนักกีฬาในช่วงเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศไทย พร้อมมอบหน้ากากอนามัยซีพีสำหรับใช้ป้องกันตนเองจากไวรัสโควิด-19 ตลอดระยะเวลาการแข่งขันที่ประเทศญี่ปุ่น และยังคงสนับสนุนการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ โดยมอบซิมโรมมิ่งจากทรูมูฟ เอช เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักกีฬาทุกคนติดต่อสื่อสารกับครอบครัวได้ตลอดเวลา”
“เครือซีพีตระหนักดีว่า กีฬาพาราลิมปิก คือความฝันและเกียรติสูงสุดสำหรับนักกีฬาคนพิการทุกคน ถือเป็นศึกใหญ่ที่นักกีฬาไทยต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งสำคัญและแม้จะหมดภารกิจสำคัญในศึกโอลิมปิกเกมส์ไปแล้ว แต่ผมอยากเชิญชวนคนไทยร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ครั้งใหม่อีกรอบ ด้วยการส่งแรงเชียร์ให้นักกีฬาทีมชาติไทยปลุกกระแส “คนไทยหัวใจนักสู้” ให้นักกีฬาไทยคว้าชัยชนะและฝ่าฟันสถานการณ์โควิด-19 ไปด้วยกัน ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เราชนะไม่ได้ถ้าได้สู้ไปด้วยกัน” นายขจร กล่าว
นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่หน่วยงานภาคเอกชนเล็งเห็นถึงความสำคัญของกีฬาทั้งกีฬาคนปกติ และกีฬาคนพิการ พร้อมให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน ซึ่งการเดินทางไปแข่งขันศึกพาราลิมปิกเกมส์ ที่ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้ ถือเป็นความท้าทายที่ทีมต้องเผชิญภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบาก ดังนั้นการที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักกีฬาแล้ว ยังเป็นการส่งมอบกำลังใจที่มีค่าให้แก่นักกีฬาอีกด้วย ต้องขอขอบคุณเครือซีพี, ซีพีเอฟ, ซีพี ออลล์, กลุ่มทรู ที่ให้การสนับสนุนทัพนักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยในครั้งนี้ เราสัญญาว่าจะทำผลงานให้ออกมาดีที่สุดเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ”
นายจุตินันท์กล่าวว่า “ในการแข่งขันครั้งนี้เชื่อว่านักกีฬาไทยจะทำผลงานได้ดีกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากทุกสมาคมเก็บตัวฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่จบการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ปี 2016 ที่บราซิล โดยที่ผ่านมามีการนำอุปกรณ์ฝึกซ้อมที่ทันสมัย มีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย ทำให้นักกีฬามีผลงานและสถิติที่ดีขึ้นเห็นได้จากจำนวนนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกไปแข่งขันรอบสุดท้าย มีมากว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่า พาราลิมปิกเกมส์รอบนี้ นักกีฬาไทยน่าจะทำผลงานได้ดีกว่าครั้งที่ผ่านมา และทำลายสถิติได้ในหลายรายการด้วย”
การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 16 นักกีฬาจากแดนสยาม สามารถคว้าโควต้าได้ทั้งกมด 74 คน จาก 14 ชนิดกีฬา ประกอบไปด้วย เทควันโด, ยิงธนู, แบดมินตัน, วีลแชร์ฟันดาบ, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, กรีฑา (ลู่-ลาน-วีลแชร์เรซซิ่ง), จักรยาน, ยิงปืน, วีลแชร์เทนนิส, บอคเซีย, ฟุตบอลตาบอด และยูโด
24 สิงหาคม ถึง 5 กันยายน 2564 นี้ เรามาร่วมกันส่งทุกแรงเชียร์ไปให้กับนักกีฬาของประเทศไทย เพื่อชิงชัยความสำเร็จในการแข่งขันในศึกพาราลิมปิกเกมส์ 2020
ด้วยเสียงเชียร์ของพวกเรานี่แหล่ะ คือสิ่งที่จะทำให้พวกเขาทำภารกิจเพื่อชาติครั้งนี้ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังใจของคนไทย และพร้อมออกไปลุยเพื่อความสำเร็จมาสู่ตัวเองและประเทศของเรา