ซีพีเอฟชี้แจงการบิดเบือนข้อมูลในโซเชียลมีเดีย พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ
ซีพีเอฟเผยว่าพบการใช้ข้อมูลประกอบการสื่อสารในเวทีสาธารณะและสื่อโซเชียลที่บิดเบือนข้อเท็จจริง ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคมและกระทบต่อชื่อเสียงองค์กร โดยเตรียมพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายต่อไป พร้อมเตือนประชาชนอย่าเชื่อและอย่าแชร์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
คุณกอบบุญ ศรีชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานกิจการองค์กร ซีพีเอฟ เปิดเผยว่าในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 มีการใช้รูปภาพและข้อมูลที่เป็นเท็จในการสื่อสารบนเวทีสาธารณะ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อบริษัท โดยตัวอย่างของข้อมูลเท็จมีดังนี้:
ภาพแรก เป็นภาพที่กล่าวอ้างว่าเป็นสภาพบ่อดินของฟาร์มยี่สารที่ใช้เพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำในช่วงปี 2554-2557 และกล่าวอ้างว่ามีการเลี้ยงต่อเนื่องถึงปี 2560 ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง สถานที่ดังกล่าวไม่ใช่ฟาร์มยี่สารและไม่มีการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับปลาหมอคางดำตั้งแต่ต้นปี 2554
ภาพที่สอง เป็นภาพที่กล่าวอ้างว่าเป็นการคัดเลือกไข่ปลาหมอคางดำเพื่อนำไปขยายพันธุ์ที่ฟาร์มยี่สาร ซึ่งไม่เป็นความจริง กิจกรรมในภาพไม่ใช่กระบวนการคัดเลือกไข่ปลาตามวิธีปฏิบัติของบริษัท
- อีกแล้ว! ศรีสุวรรณ ร้อง กรมประมง เหตุเอื้อนายทุน นำเข้า ปลาหมอคางดำ
- ชายมุสลิม อ้าง อัลเลาะห์ส่ง ปลาหมอคางดำ ลงมาทำให้น้ำสะอาด?!
- เปิดโลก! เชฟร้านอาหารญี่ปุ่น รีวิววิธีแล่ ‘ปลาหมอคางดำ’ เจออะไรในท้อง?
ภาพสุดท้าย เป็นภาพถ่ายทางอากาศของฟาร์มที่มีการระบุผังของฟาร์มอย่างผิดพลาด กรอบสีแดงที่กล่าวว่าเป็นบ่อเลี้ยงปลานั้น แท้จริงแล้วเป็นบ่อเลี้ยงกุ้ง ส่วนกรอบสีเหลืองที่ระบุว่าเป็นบ่อผสมพันธุ์ปลาและบ่ออนุบาลปลา ความจริงคือบ่อปรับปรุงพันธุ์ปลานิล ปลาทับทิม และปลาทะเล
ซีพีเอฟกำลังรวบรวมข้อมูลที่บิดเบือนอื่นๆ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ผู้ที่ให้รูปภาพและข้อมูลที่เป็นเท็จควรรับผิดชอบร่วมกับผู้ที่ใช้ข้อมูลดังกล่าวในการสื่อสารในเวทีสาธารณะ
บริษัทเห็นว่าควรมีกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางสังคมเพิ่มเติม เนื่องจากมีกิจกรรมค้าขายปลาหมอคางดำโดยบริษัทอื่นที่ซีพีเอฟไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้สังคมได้ความเป็นธรรมและค้นหาเหตุอื่นๆ เพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหาและป้องกันการแพร่กระจายในระยะยาว
ซีพีเอฟยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างสุจริต และจะปกป้องชื่อเสียงองค์กรจากการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ ซีพีเอฟจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไปเพื่อปกป้องความเสียหายที่เกิดขึ้น