ซื้อบ้านราคา 2 ล้านกว่าไม่มีน้ำไฟให้ ติดต่อไปที่เจ้าของโครงการเงียบเฉย ส่วนอีกรายโครงการเจ้าของเดียวกันสุดงง อยู่ดีๆบ้านถูกขายทอดตลาดทั้งที่ยังผ่อนอยู่

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า โดนตัดไฟ จากเจ้าของโครงการหมู่บ้าน ตอนซื้อฟรีน้ำไฟติดตั้งให้ แต่ไม่ติดตั้ง โคตรหลอกขาย วันนี้ตัดไฟ พร้อมรูปภาพบ้านที่มืด

ล่าสุดวันที่ 21 พ.ค. 66 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังหมู่บ้านดังกล่าว ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้พบกับ น.ส.นิตยา คงสกุล อายุ 48 ปี คนโพสต์และเป็นเจ้าของบ้าน โดยได้ซื้อบ้านกับโครงการนี้ในราคา 2,006,000 บาท ตามที่มีการโปรโมทว่าทางโครงการฟรีน้ำ-ไฟและติดตั้งให้ภายใน 3 เดือน มาซื้อบ้านโครงการนี้กว่า 3 ปี ก็ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ จากโครงการที่อยู่ได้ทุกวันนี้ ไปขอพ่วงไฟและน้ำจากบ้านหลังอื่นที่อยู่ใกล้ ๆ ซึ่งโครงการนี้ปลูกขึ้นมาจำนวน 9 หลังและทุกหลังเป็นเหมือนกันหมด

น.ส.นิตยา กล่าวว่า เมื่อวานนี้บ้านของตนไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากบ้านที่ไปขอพ่วงนั้นได้ตัดออก เพราะทางเจ้าของโครงการไม่จ่ายค่าไฟตามที่ทำสัญญาไว้กับบ้านหลังดังกล่าว จึงทำให้ต้องตัดไฟตั้งแต่ 17.00 น. จนถึงเวลา 00.30 น. ซึ่งตนได้โทรคุยกับเซลส์ที่ขายบ้านให้ เพื่อให้เป็นคนกลางไปเจรจากับบ้านที่ตนต่อพ่วงไฟมาใช้ ซึ่งทางเซลส์ที่ขายบ้านให้นั้นก็ได้ไปพูดคุยให้และสามารถกลับมาใช้ไฟได้ต่อในช่วงดึก

ตนพร้อมกับเพื่อนบ้านอีก 8 หลังนั้นเคยไปยื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมที่อำเภอพานทองไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว เพื่อให้ทางอำเภอพานทองเรียกเจ้าของโครงการมาพูดคุยกับปัญหาดังกล่าว แต่ทางเจ้าของนั้นกลับไม่มาและทางอำเภอพานทองยังทำเอกสารไปยังการไฟฟ้าสาขาพานทองให้เร่งดำเนินการปัญหาดังกล่าวแล้ว แต่ต้องรอเวลาสักระยะนึง เพื่อตรวจสอบสถานที่ว่าสามารถจะติดตั้งเสาไฟฟ้าเพิ่มเติมได้หรือไม่ ส่วนตนนั้นคิดว่าทางอำเภอพานทองที่รับเรื่องไปแล้วก็ช่วยพวกตนจึงถึงที่สุดคงจะไม่ปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อนและฝากขอบคุณทางอำเภอพานทองที่รีบดำเนินการเรื่องนี้ให้

ด้าน น.ส. จริญา นารี อายุ 39 ปี กล่าวว่า ตนซื้อบ้านกับเจ้าของโครงการนี้แต่เป็นโครงการที่1 ซึ่งได้สร้างมา 10 กว่าปีแล้ว ซื้อมาในราคา 6 แสนกว่าบาทและทางเจ้าของโครงการก็ใจดีที่จะให้ตนผ่อนค่างวดของบ้านกับทางโครงการเลย โดยไม่ต้องไปผ่อนกับธนาคาร ซึ่งตนก็คิดว่าดีไม่ต้องใช้เอกสารอะไรมาก แต่เมื่อผ่อน ๆ อยู่นั้นกลับได้รับหนังสือจากกรมที่ดินว่าบ้านของตนนั้นถูกขายทอดตลาดไปแล้ว ตนก็งงว่าในเมื่อตนนั้นยังผ่อนอยู่ทำไมถึงถูกขายทอดตลาด

จึงเดินทางไปสอบถามและได้รับคำตอบว่าชื่อที่ระบุนั้นเป็นชื่อของเจ้าของโครงการซึ่งเจ้าของโครงการได้ถูกศาลมีคำสั่งพิพากษาล้มละลาย จึงทำให้บ้านของตนนั้นถูกขายทอดตลาดไป แต่ตนได้ทำหนังสือคัดค้านเอาไว้แล้ว ซึ่งจนป่านนี้บ้านที่ตนซื้อมานั้นก็ยังไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อตัวเองได้ตนก็อยากจะฝากถึงคนที่ซื้อบ้านให้เช็กประวัติเจ้าของโครงการหรือดูสัญญาการซื้อขายกันดี ๆ ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีกและมี 1 ในบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนทราบว่าเจ้าของโครงการนี้ยังไปหาซื้อที่แถว อ.พนัสนิคม เพื่อปลูกบ้านขายซึ่งได้เปลี่ยนชื่อโครงการ ไม่ได้ใช้ชื่อเดิมอีก

จากการตรวจสอบบ้านในหมู่บ้านนั้นมีการปลูกสร้างบนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มีทั้งหมด 9 หลัง ซึ่งแต่ละหลังไม่มีมิเตอร์น้ำ มิเตอร์ไฟ ซึ่งจะต้องไปขอต่อไฟจากโกดังเก็บของหรือบ้านญาติมาใช้ ซึ่งก็สร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านญาติที่ไปขอต่อไฟมาเพราะบางทีทำให้ไฟกระชาก เครื่องใช้ไฟฟ้าก็เสียหาย

ขณะที่ นายกิตติคุณ เชื้อแถว ปลัดอำเภอพานทอง ตำแหน่งเจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานงานไปที่การไฟฟ้า สาขาอำเภอพานทองให้แล้วและทางไฟฟ้าได้รับเรื่องนี้ไว้พิจารณาเป็นพิเศษเพราะเห็นความเดือดร้อนของทางชาวบ้าน ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกสักระยะ เพราะจากการตรวจสอบในหมู่บ้านดังกล่าวนั้น สามารถที่จะตั้งหม้อแปลงได้ใหม่

แต่ต้องรองบประมาณที่จะดำเนินการทางปลัดอำเภอพานทองยังกล่าวอีกว่าให้ชาวบ้านที่มาร้องทุกข์นั้นสบายใจได้ตนติดตามการดำเนินการอยู่ตลอดไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างไร ส่วนในเรื่องของเจ้าของโครงการนั้นต้องมาปรึกษากันอีกทีว่าจะทำอย่างไรได้เพราะเขาเป็นบุคคลที่ถูกศาลพิพากษาล้มละลายไปแล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าของโครงการดังกล่าว เคยทำโครงการหมู่บ้านมาหลายโครงการแล้ว มักจะเจอปัญหาแบบนี้ตลอด ซึ่งก็ไม่มีใครสามารถติดตามได้ว่าไปอยู่ที่ไหน