แก๊งช่างกลถาม ‘มึงเรียนที่ไหน’ ก่อนใช้ปืนจี้อุ้มอริขึ้นรถ พาไปที่เปลี่ยวแล้วรุมตื้บ-ไฟลนหัวเข็มขัดจี้หน้าอก จนหนองไหล พ่อลั่น ลูกโดนยิงตาย คงไม่มีใครเห็น
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 16 พ.ย.65 ที่ทำการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายธีระวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี พา นายดริ๊งค์ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ลูกชาย เดินทางเจ้าพบ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ เพื่อร้องขอความเป็นธรรม
เนื่องจากเห็นข่าวกลุ่มวัยรุ่นจับเยาวชนไปทำร้ายและกักขังให้อมนกเขา จึงคาดว่าเป็นแก๊งช่างกลกลุ่มเดียวกันกับที่เอาเหล็กร้อน ที่มีสัญลักษณ์ของสถาบันมาเผาหัวนมของลูกชาย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 พ.ย.65 และแจ้งความไว้ที่ สน.บางชัน วันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า จึงมาร้องให้ทนายช่วยติดตามเรื่อง
จากการสอบถาม นายดริ๊งค์ ผู้เสียหาย ทราบว่า เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 3 พ.ย.65 เวลาประมาณ 23.00 น.บริเวณถนนรามคำแหง ตนขับรถไปธุระกับเพื่อน ขณะที่กำลังขับรถเพื่อจะกลับบ้าน เจอกลุ่มวัยรุ่นขับรถกันมาประมาณ 5-6 คัน ซ้อนกันมาคันละ 2-3 คน รวมแล้วประมาณ 15 คน ขับรถมาประกบรถของตน แล้วถามว่าเรียนที่ไหน ซึ่งตนก็บอกว่าไม่ได้เรียน กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวเห็นชักปืนออกมาประมาณ 5-6 กระบอก เรียกเอาโทรศัพท์ของตนไปดู จนพบว่าแชทของตนคุยกันว่า เรียนที่แห่งไหน
นายดริ๊งค์ กล่าวว่า จากนั้นจึงพาตนและเพื่อน ขับรถไปภายในซอยเสรีไทย 52 ซึ่งเป็นที่เปลี่ยว โดยระหว่างขับรถมีคนซ้อนท้ายใช้ปืนจี้ด้านหลัง เมื่อถึงที่เปลี่ยวมีลักษณะเป็นป่าจึงให้ตนลง และถามตนว่าเรียนที่นี่ใช่ไหม
จากนั้นก็รุมกระทืบตนและเพื่อน หลังกระทืบเสร็จก็นำหัวเข็มขัดมาลนไฟแล้วมาจี้ที่หน้าอกตน จนเป็นรอยไหม้ หลังจากนั้นก็ให้ตนถอดเสื้อ ขับรถนำกลุ่มพวกเขาขับตามวนอยู่ภายในซอยประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนปล่อยกลับ ซึ่งขณะที่โดนขู่ ตนรู้สึกตกใจ เพราะมีปืนจ่ออยู่ตลอดเวลา ตนไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ทำร้าย 3 วัยรุ่นเพราะทุกคนใส่หมวกกันน็อกหมด แต่เขาประกาศว่าเขาเรียนที่โรงเรียนเทคนิคแห่งหนึ่ง และหัวเข็มขัดที่นำมาจี้ ก็เป็นตราโรงเรียนนี้
นายดริ๊งค์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุตนยังไม่กล้าแจ้งความ และไม่ได้บอกผู้ปกครอง จนผู้ปกครองมาทราบว่า แผลมีลักษณะเป็นหนองไหล จึงพาตนเข้าแจ้งความวันที่ 13 พ.ย.65 แต่คดีก็ไม่คืบ จนมาเห็นข่าววัยรุ่นถูกทำร้าย ให้อมนกเขา จึงคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน
ผู้ปกครองจึงพามาร้องทนาย เพราะหลังจากเป็นข่าว วันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรมาว่า ให้ตนเข้าไปดูรูปพรรณผู้ต้องสงสัย ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะเดินทางไปที่สน.บางชัน ตอนนี้มีความกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย เพราะวันที่เกิดเหตุตนเห็นเขาถือโทรศัพท์เปิดแฟลชไม่แน่ใจว่า ถ่ายคลิปไว้หรือเปล่า
ด้าน พ่อของผู้เสียหาย กล่าวว่า ลูกชายไม่ได้บอกว่าโดนกระทืบมา เพราะวันที่เกิดเหตุตนไปธุระข้างนอก กลับมาเกือบเช้า แต่ลูกชายกลับมาก่อน ก็ไม่ได้บอกอะไร และตนก็ไม่เห็นแผลที่หน้าอก มาทราบอีกทีเพราะเขาเปิดให้ดู เนื่องจากแผลเป็นหนองไหล ตนเห็นแบบนั้นรับไม่ได้ เพราะเลี้ยงลูกมาไม่เคยตี ค่อนข้างจะตามใจด้วยซ้ำ
ที่มาร้องทนายเพราะไม่ให้อยากให้คนกลุ่มนี้ ไปกระทำกับใครอีก โชคดีวันที่เกิดเหตุลูกชายตนไม่ถูกยิงตาย เพราะหลังทราบเรื่อง ตนขับรถไปดูที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นที่เปลี่ยวและมืดมาก ถ้าถูกยิงตาย ก็คงไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้อาจต้องรอให้ประชุมเอเปคเสร็จก่อน ตนจะรวบรวมผู้เสียหาย ถ้าคดีไม่คืบหน้าไปร้องตร.อีกครั้ง เพราะลักษณะการกระทำมันเข้าข่ายการทารุณกรรม มันข้ามคำว่าทำร้ายร่างกายไปแล้ว ตอนนี้ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาให้ครบทุกคน แล้วแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
ส่วนเรื่องที่มีคนโพสต์ว่าเป็นน.ส.พลอยออกมาขอโทษ และเขียนว่าเป็นหนังคนละม้วนนั้น ตนไม่แน่ใจว่าเป็นน.ส.พลอยตัวจริงหรือเปล่า ส่วนคดีที่กลุ่มวัยรุ่นถูกทำร้ายให้อมนกเขา ตอนนี้พบว่ามีคลิปจำนวนมาก เห็นการกระทำหลายๆ อย่าง ของเด็กๆกลุ่มที่ทำร้ายเหล่านี้