‘ช่อ’ ข้องใจเข้าพบตำรวจ สน.พญาไท ถูกเพิกถอนพาสปอร์ต เผยอัยการยังไม่สั่งฟ้อง ศาลยังไม่มีคำสั่งงดเดินทาง ลั่นละเมิดสิทธิเสรีภาพ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 เม.ย. 2565 ที่สถานีตำรวจนครบาล(สน.) พญาไท น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามถึงสาเหตุการออกคำสั่งระงับการออกหนังสือเดินทาง
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (20 เม.ย.) ตนเดินทางไปต่ออายุหนังสือเดินทางที่สำนักงานหนังสือเดินทาง เขตปทุมวัน เมื่อเดินทางไปถึงพนักงานพยายามทำในระบบหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ จึงสอบถามไปยังกรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบ จึงทราบภายหลังว่ามีหนังสือขอให้มีการเพิกถอนหนังสือเดินทางของทั้ง 3 รายชื่อ คือตนเอง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล
ซึ่งหนังสือดังกล่าวลงนามโดย พ.ต.ท.บารมี วงษ์อินตา รองผู้กำกับ(สอบสวน) สน.พญาไท โดยให้เหตุผลว่าทั้งสามเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา มาตรา 116 ซึ่งคดีนี้ ตนยืนยันว่าอัยการยังไม่มีการส่งฟ้อง แน่นอน และยังไม่มีคำสั่งศาลสั่งงดการเดินทาง
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า เป็นเรื่องที่น่าแปลกในช่วง 2-3 ปีมานี้ ผู้ต้องหาที่โดนคดีอาญามาตรา 112 และ 116 มีกว่า 300 คน ทั้งหมดนี้ต้องโดนระงับหนังสือเดินทางทั้งหมดเลยหรือไม่ แล้วสิทธิเสรีภาพอยู่ที่ไหน ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน เป็นการแสดงให้เห็นว่า มีการเลือกปฏิบัติกับคนที่เห็นต่างทางการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีอาจารย์ปิยบุตรที่ขณะนี้อยู่ต่างประเทศ ตนยังไม่แน่ใจว่ามีผลอะไรหรือไม่ เพราะตอนขาออกยังสามารถเดินทางไปได้ แม้คำสั่งนี้มีนานแล้ว และเข้าใจว่าอธิบดีกรมการกงสุลให้ความร่วมมือกับทางตำรวจแค่บางส่วน เพราะในหนังสือดังกล่าวระบุว่าให้ระงับและเพิกถอนหนังสือเดินทาง แต่สิ่งที่เกิดเป็นเพียงการไม่อนุญาตให้ต่ออายุหนังสือเดินทาง
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า ในทางปฏิบัติกรณีนี้ทำให้ชีวิตลำบาก เพราะเวลาเดินไปทางไปต่างประเทศจะต้องกังวลทุกครั้งว่าจะไปติดที่ด่านไหนหรือไม่ จริงๆ ทางแก้ไขทราบว่ามีวิธีการดำเนินการอยู่หลายวิธีในทางกฎหมาย แต่อยากพูดคุยและทำความเข้าใจกับตำรวจให้ดีก่อนว่า สิ่งที่ทำอยู่เป็นการใช้กฎหมายที่ทำให้ประชาชนรู้สึกลำบากพอสมควร และเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ คิดว่าตำรวจน่าจะทำความเข้าใจได้
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า หลังจากที่โดนปฏิบัติลักษณะนี้ ตนตัดสินใจไปเปิดดูข้อกฎหมายต่างๆ สรุปว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจที่จะทำได้ เพราะการออกหนังสือเดินทางกระทรวงต่างประเทศในข้อของการระงับเพิกถอนให้อำนาจเจ้าหน้าที่อื่นที่มีหน้าที่ตามกฎหมายสามารถขอเพิกถอนพาสปอร์ตยกเลิกพาสปอร์ตได้ จากนี้ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจอื่นตามกฎหมายใช้อำนาจตามกฎหมายข้อใดในการเพิกถอน