ช่วยแม่ทีต้องทำยังไง พาลูก17ฝังยาคุม ภูมิใจไปบอกเพื่อนจะมีอะไรกับใครก็ได้

Home » ช่วยแม่ทีต้องทำยังไง พาลูก17ฝังยาคุม ภูมิใจไปบอกเพื่อนจะมีอะไรกับใครก็ได้


ช่วยแม่ทีต้องทำยังไง พาลูก17ฝังยาคุม ภูมิใจไปบอกเพื่อนจะมีอะไรกับใครก็ได้

เฟลมากจะช่วยลูกยังไงว่าสิ่งที่แม่ทำไม่ได้เป็นการส่งเสริมลูกแบบนั้น แม่ถามต้องทำยังไง พาลูก17ฝังยาคุม ภูมิใจไปบอกเพื่อนจะมีอะไรกับใครก็ได้

พุธทอล์คพุธโทร เผยเรื่องราวคุณแม่รายหนึ่งโทรเข้ามาปรึกษาเรื่องลูกสาววัย17 จะปรับความคิดลูกยังไงดี? แม่พาลูกสาววัย 17 ไปฝังยาคุมหวังป้องกันเรื่องท้อง สุดท้าย ลูกภูมิใจไปบอกเพื่อนว่า ‘หลังจากนี้เป็นอิสระแล้ว จะมีอะไรกับใครก็ได้’

“คุณซี (นามสมมติ)” สายแรกในรายการพุธทอล์คพุธโทรเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (26 ตุลาคม 2565) ได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจเติ้ล – ดีเจต้นหอม – ดีเจหอย เกี่ยวกับปัญหาของลูกสาวอายุ 17 ปี

โดย “คุณซี (นามสมมุติ)” ได้เล่าว่า ‘คุณซีเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูกสาว 1 คนแต่ให้ทางคุณแม่และน้องสาวเป็นคนเลี้ยงลูกให้ เรามีหน้าที่ซัพพอร์ตเรื่องเงินอย่างเดียว จนกระทั่งลูกเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขาก็เริ่มเกเร หนีออกจากบ้านบ้าง ไปอยู่กับเพื่อนบ้าง พาเพื่อนมาบ้านบ้าง ซึ่งทางบ้านเราที่ต่างจังหวัดเขาก็ค่อนข้างเคร่ง เขาเริ่มเอาไม่อยู่แล้ว ก็เลยปรึกษากันว่าลูกอยากจะมาอยู่กับแม่หรือเปล่า? เผื่อลูกมีอะไรจะได้คุยกับแม่ เราก็เลยย้ายเขามาเรียนที่นี่ ซึ่งเรามีบ้าน 2 หลัง แต่อยู่คนละอำเภอกัน เราก็มีแฟน มีลูกใหม่แล้ว ลูกสาวไม่อยากมาอยู่บ้านกับพ่อเลี้ยง เราก็เลยให้เขาอยู่บ้านอีกหลัง วันธรรมดาที่เราทำงานเขาก็จะอยู่คนเดียว แต่พอเราเลิกงานก็ไปอยู่กับเขาถึง 3 ทุ่ม และทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์เราก็ไปอยู่เป็นเพื่อนเขาทั้งวัน

เราพาเขามาอยู่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ช่วงแรก ๆ ก็ปกติ แต่พอเดือนมิถุนายนเขาก็สานสัมพันธ์กับเพื่อนในห้องที่เรียนใหม่ แล้วเขาก็เริ่มขอไปนอนบ้านเพื่อนบ้าง ขอเอาเพื่อนมานอนที่บ้านบ้าง เราก็ปล่อยเขาเพราะเราอยากเป็นแม่วัยรุ่นที่ไม่อยากไปเข้มงวดอะไรกับเขามาก จนกระทั่งเขาไปกินเหล้าแล้วไปมีอะไรกับเพื่อนผู้ชาย เหมือนเราจะทำใจได้แต่จริง ๆ ทำใจไม่ได้เลย เราก็ได้แต่บอกลูกว่ามีเซ็กซ์ก็ให้ป้องกันนะ ใส่ถุงยางนะ มันไม่ได้มีแค่เรื่องท้อง แต่มีโรคติดต่ออีกเยอะแยะ เขาก็บอกว่าคืนนั้นเขาไม่ได้ป้องกันเลย เราก็ถามเขาว่าถ้ามีอะไรกับคนนี้แล้วจะคบกันไหม? เขาบอกว่าไม่คบ เราก็เลยบอกว่าถ้าไม่คบก็อย่าไปติดต่ออะไรกับเขาอีก แต่เขาก็ยังแอบคบหากัน เราไม่อยากละลาบละล้วงอะไรเขามาก แค่รู้ว่าคนนี้คนแรกที่เรารับรู้ แต่ก่อนหน้านั้นเราไม่รู้เลยว่าคนนี้คนแรกของลูกหรือเปล่า เขาก็เหมือนจะฟังเรา แล้วเขาก็เลิกกับคนนี้…

เราก็ไว้ใจเขา คิดว่าเขาคงจะคิดได้แล้ว ไม่ออกจากบ้าน ไม่ไปกินเหล้ากับเพื่อน แต่เหมือนเขาจะทำตัวน่ารักได้ไม่ถึงเดือน เขาก็ไปเจอผู้ชายในโลกออนไลน์ Reply สตอรี่กันไปมาจนนัดเจอกัน แล้วก็พามาที่บ้าน เรารับไม่ได้หรอก แต่เราก็ยังไว้ใจลูกว่าเขาป้องกันตลอดเวลา จนกระทั่งเราก็ไปอ่านแชทลูกที่คุยกับแฟนใหม่ของเขา ปรากฏว่าเขามีอะไรกันโดยที่ไม่ป้องกันเลย และเหมือนจะมีอยู่ช่วงนึงที่เขาท้อง เขาก็คุยกันว่าดีใจมากเลยจะได้เป็นพ่อเป็นแม่คนแล้ว ตั้งชื่อลูกว่าอะไรกันดี และเขาก็แท้งเพราะตกเลือดหรืออะไรสักอย่าง

หลังจากนั้นเราก็คิดว่าเราควรต้องปกป้องลูกแล้ว เราก็เลยไปอ่านในอินเตอร์เน็ตว่าการฝังยาคุมจะช่วยลูกได้ เราก็เลยพาลูกไปฝังยาคุมโดยที่ลูกทั้งเต็มใจและไม่เต็มใจ เรารับรู้ความรู้สึกของเขาแต่เราแค่ไม่อยากให้เขาซ้ำรอยเรา เป็นคุณแม่วัยใส อยากให้เขาเรียนจบมหาลัยก่อนแล้วค่อยมีเรื่องพวกนี้เข้ามา เราก็บอกเขาว่าเราหวังดีนะ ไม่อยากให้พลาดเหมือนแม่ แต่พอกลับมาถึงบ้านเขาก็เคืองเรา ไม่พอใจว่าทำไมเราถึงไม่มีความเชื่อใจเขาเลย เราก็บอกตามตรงว่าเราไม่ได้เชื่อใจเขาตั้งแต่เห็นแชทว่าเขามีอะไรกันโดยที่ไม่ป้องกัน

หลังจากนั้นเขาก็เริ่มมีกำแพงระหว่างแม่กับลูก เราพยายามเข้าหาลูก ชวนไปทำกิจกรรม ไปเดินห้าง หรือพาไปกินข้าวข้างนอก ไปถ่ายรูปเล่นกัน เขาก็ไม่ไป นอกจากเราต้องบังคับ เขาถึงจะไป และเรามาได้ยินว่าลูกไปคุยกับเพื่อนและคุยผู้ชายที่เขาคบว่า เนี่ย…แม่พาไปฝังยาคุมมา รู้สึกฟรีดอมมาก พอเราได้ยินแล้วก็รู้สึกเฟลมากๆ ไม่ได้ต้องการให้ลูกคิดแบบนั้น แต่ลูกเข้าใจว่าการที่เราทำแบบนี้เหมือนเราไปส่งเสริมให้เขามีเซ็กซ์กับคนแปลกหน้าโดยที่ไม่ต้องป้องกัน

“คุณซี (นามสมมติ)” จึงได้โทรเข้ามาปรึกษาดีเจทั้ง 3 คนว่าเราจะต้องคุยกับลูกหรือช่วยลูกยังไงว่าสิ่งที่แม่ทำไม่ได้เป็นการส่งเสริมลูกแบบนั้น

งานนี้ทั้ง 3 ดีเจก็ได้ให้คำปรึกษาว่า ‘เด็กยุคนี้มีเพศสัมพันธ์ที่เร็วมาก แต่เราต้องอดทนฟังให้ได้ว่าเขามีเพศสัมพันธ์แล้ว เราห้ามเขาทุกอย่างไม่ได้ แต่เขาต้องการความเชื่อใจ การเปลี่ยนความคิดของใครสักคน โดยเฉพาะลูกที่ไม่ได้อยู่กับเราตั้งแต่แรก ต้องใช้เวลา อยู่กับเขาและสังเกตเขาเยอะๆ
ถ้าระหว่างแม่กับลูกมีช่องว่าง เราก็ต้องเป็นแม่ที่ต้องเป็นทั้งแม่ ทั้งเพื่อน ทั้งพี่สาว สามารถคุยเล่นกันได้ ปรึกษากันได้ บอกเขาว่ามีอะไรบอกได้ เล่าได้นะ และเราก็ต้องเคารพความจริงที่เขาเล่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ใครสักคนเล่าเรื่องจริงจนหมดเปลือก แปลว่าเขาทิ้งตัวกับเราแล้ว แม้เรื่องนั้นจะไม่ถูกใจก็ต้องให้เกียรติในสิ่งที่เขาเล่าด้วย…

และขอแนะนำอีกเรื่องคือประโยคที่ว่า แม่ไม่อยากให้ลูกเป็นแบบแม่นะ ห้ามพูดเด็ดขาดเพราะแม่ก็คือแม่ ลูกก็คือลูก มันไม่เหมือนกัน แต่ให้ใช้ประโยคที่ว่า แม่อยากให้ลูกมีความสุข…’

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ