เหยื่อโผล่อีก แก๊งลูกตำรวจคดีป้าบัวผัน ข่มขืนสาว-ฆ่าคู่อริ ตามปาระเบิดซ้ำในงานศพ กร่างไม่กลัวกฎหมาย “กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ช่วยผู้เสียหายแล้ว

วันนี้ (19 ม.ค. 67) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง เดินทางไปยัง สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังเยาวชนอายุ15 ปี ร้องขอความช่วยเหลือกรณีถูกแก๊งลูกมาตำรวจข่มขืนและกรณีพ่อของเด็กอายุ 16 ปี ร้องลูกชายถูกแก๊งลูกตำรวจทำร้ายจนเสียชีวิต

โดย กัน จอมพลัง กล่าวว่า เคสแรกคือน้องอายุ 15 ปี ถูกแก๊งลูกตำรวจแก๊งเดียวกันกับคดีฆ่าป้าบัวผันข่มขืนพร้อมกับข่มขู่ว่าหากไม่ยอมมีอะไรด้วยจะเรียกพวกมารุม ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งผู้เสียไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดีเพราะในแก๊งมีลูกของตำรวจรวมและมีพวกเยอะเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย

ส่วนเคสที่ 2 คือมีพ่อของเด็กอายุ 16 ปี ถูกแก๊งลูกตำรวจแก๊งเดียวกันทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต หลังเกิดเหตุไม่ได้รับการเยียวใดๆทั้งสิ้นจากฝั่งผู้ก่อเหตุ อีกทั้งยังมีการปาระเบิดในงานศพและข่มขู่จะเอาชีวิตน้องอีกคนด้วย ซึ่งทุกชีวิตที่เสียไปล้วนตายฟรี

ด้านพ่อของเด็กอายุ 16 ปี เล่าว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 ลูกชายไปเที่ยวงานและถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุไล่ฟันจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งกากระทำดังกล่าวตนเองรับไม่ได้ เนื่องจากพบว่า ลูกชายโดนฟันที่ข้อเท้า ด้านหลังและหน้าอก อีกทั้งยังมีการปาระเบิดปิงปองป่วนในงานศพร่วมถึงเบิ้ลเครื่องส่งเสียงดังและกีดกำแพงวัดอีกด้วย ซึ่งข้อหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งคือ ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ส่วนตัวมองว่าข้อหาอ่อนไปมากควรเป็นเจตนาฆ่า

ขณะที่เพื่อนของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนและเพื่อนไปเที่ยวงาน จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดจึงพากันกลับบ้าน เมื่อมาถึงสะพานพบกลุ่มวัยรุ่นโบกมือเรียก ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรจึงขับรถตามไป แต่กลับถูกไล่ฟัน ซึ่งเพื่อนที่เสียชีวิตขับรถไปชนกับต้นไม้จากนั้นถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุอุ้มไปรุมทำร้ายร่างกายในน้ำจนสุดท้ายเสียชีวิต ส่วนตนเองถูกรุมกระทืบจนสลบไป

ด้าน กัน จอมพลัง กว่าว่าสิ่งที่รู้สึกแปลกใจคือลักษณะการอุ้มไปทำร้ายร่างกายในน้ำคล้ายกับกรณีของป้าบัวผัน คาดว่าเขาอาจคิดว่าเคยทำแบบนี้แล้วรอดจึงก่อเหตุซ้ำ ซึ่งตอนนี้มีผู้เสียหานที่ถูกแก๊งลูกตำรวจทำร้ายร้องเรียนเข้ามาเยอะมาก จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีอย่างเอาจริงเอาจังกับกลุ่มวัยรุ่นแก๊งนี้สักทีเพื่อสร้างความสบายใจและความปลอดภัยให้กับชาวบ้านในพื้นที่