วันที่ 9 ก.พ. ซีเอ็นเอ็น รายงานข่าว สามีชาวอิหร่านฆ่าตัดศีรษะภรรยาสาวอายุ 17 ปี ในจังหวัดคูเซสถาน ทางตะวันตก เมื่อสัปดาห์ก่อน ที่สร้างความสะเทือนขวัญไปทั่วประเทศ และเกิดความกังวลอีกครั้งเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยคดีฆาตกรรมและความรุนแรงทางเพศของอิหร่าน

สำนักข่าวสาธารณรัฐอิสลาม (ไออาร์เอ็นเอ) สื่อทางการอิหร่าน อ้างว่าฆาตกรรมดังกล่าวเป็นการฆ่าเพื่อ รักษาเกียรติ วิดีโอที่มีการแชร์บนโลกออนไลน์เผยนายไซยัด เฮย์ดารี เดินบนถนนในเมืองอาห์วัซ เมืองหลักของจังหวัดคูเซสถาน ขณะถือศีรษะของภรรยาและยิ้มไปด้วย

ทางการท้องถิ่นยืนยันว่าภาพถ่ายจากวิดีโอที่มีการแชร์อย่างกว้างขวางที่อ้างว่าเป็นนายเฮย์ดารีนั้นเป็นของจริง โดยนายเฮย์ดารี ถือมีดในมือข้างหนึ่ง ส่วนในมืออีกข้างถือศีรษะของเด็กหญิง

ด้านสำนักข่าวฟาร์ส สื่อกึ่งทางการอิหร่าน เผยแพร่บทสัมภาษณ์ของแม่ของนายเฮย์ดารีที่ระบุว่า ลูกชายขู่ฆ่าภรรยาของเขาก่อนหน้านี้ และเป็นผู้ลงมือจริงๆ แม่ของนายเฮย์ดารียังบอกว่า ลูกสะใภ้บินกลับตุรกีเป็นเวลา 4 เดือน ก่อนบินกลับมาอิหร่านหลังถูกพ่อของลูกสะใภ้เองโน้มน้าว

ไออาร์เอ็นเอรายงานว่า หญิงสาวมีอายุ 12 ปี (5 ปีก่อน) ตอนแต่งงานกับนายเฮย์ดารี ส่วนฟาร์สสัมภาษณ์พ่อของผู้ตายที่ระบุว่า ได้รับใบรับรองทางกฎหมายที่อนุญาตให้ลูกสาวแต่งงานได้ เนื่องจากในอิหร่าน อายุขั้นต่ำที่แต่งงานได้คือ 13 ปี สำหรับหญิงสาว และ 15 ปี สำหรับชายหนุ่ม

สำนักข่าวฟาร์สรายงานว่า หญิงสาวเดินทางกลับจากตุรกีเมื่อวันศุกร์ และถูกสังหารไม่นานหลังจากนั้น ส่วนนายเฮย์ดารีถูกจับกุมพร้อมพี่ชายของเขา ที่ช่วยก่อเหตุ นายอับบาส ฮุสเซย์นี ปูยา อัยการบอกว่า ผู้ต้องหาจะได้รับโทษอย่างหนัก และผู้เผยแพร่และแชร์วิดีโออาจถูกจับกุมด้วย

ไออาร์เอ็นเอรายงานข้อความของ เอนซีห์ คาซาลี รองประธานฝ่ายกิจการสตรีและครอบครัว บนทวิตเตอร์ว่า คดีฆาตกรรมดังกล่าวทำให้รัฐบาลอิหร่านผลักดันการพิจารณาร่างกฎหมายเพื่อปกป้องผู้หญิงจากความรุนแรงในครอบครัว “ศาลมุ่งมั่นที่จะลงโทษ (ฆาตกรและผู้ต้องสงสัย) อย่างหนักที่สุดตามกฎหมาย” คาซาลีกล่าว

ด้านองค์การสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอตช์ ระบุว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวมีบทบัญญัติด้านบวกหลายประการ รวมถึงการสร้างคำสั่งห้ามและการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อร่างยุทธศาสตร์และประสานการตอบสนองของรัฐบาลต่อความรุนแรงต่อผู้หญิง

แม้ว่าร่างกฎหมายยังกำหนดต้องไกล่เกลี่ยทางอคติในข้อพิพาทภายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับบิดาหรือสามี แต่ฮิวแมนไรต์วอตช์ระบุว่า กฎหมายยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และไม่ได้ทำให้ความรุนแรงทางเพศบางรูปแบบเป็น “อาชญากรรม” เช่น การข่มขืน และการแต่งงานในเด็ก

ฮาดี กาเยมี กรรมการบริหารของศูนย์สิทธิมนุษยชนในอิหร่านในนิวยอร์ก (ไอซีเอชไออาร์) กล่าวว่า “เจ้าสาวเด็กที่ถูกตัดศีรษะอาจมีชีวิตอยู่ในวันนี้ หากรัฐบาลอิหร่านออกกฎหมายต่อต้านการปฏิบัติที่โหดร้ายของการแต่งงานในเด็ก และการป้องกันความรุนแรงในครอบครัว”

ทั้งนี้ คดีการฆ่าเพื่อ รักษาเกียรติ ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียง 2 ปีหลังเกิดฆาตกรรมแบบเดียวกันกับหญิงสาววัย 14 ปี ที่ถูกบิดาบังเกิดเกล้าใช้เคียวตัดศีรษะ หลังลูกสาวหนีออกจากบ้านของครอบครัว ไปพร้อมกับชายวัย 29 ปี ในเทศมณฑลตาเลช ทางเหนือของอิหร่าน