ชูวิทย์ เข้าสภา แจงกมธ.ป.ป.ช. ซัดหน่วยงานรัฐหนุนทุนจีนทำธุรกิจในไทย แฉ ‘สันธนะ’ รับงานมาเฟียจีนมาเล่นงาน แง้มรอดูภาคต่อไป

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2565 ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ป.ป.ช.) ที่มีพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย เป็นประธาน หลังยื่นคำร้องให้กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล

นายชูวิทย์ กล่าวว่า นายสันธนะ เป็นบุคคลที่อันตราย เพราะหลังจากที่ตนได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนายทุนจีน นายสันธนะได้พยายามออกมาใส่ร้ายป้ายสีเรื่องยาเสพติดในโรงแรมของตน เหมือนเป็นความช้ำใจว่าหากวันนั้นถูกกลั่นแกล้งเรื่องยาเสพติดก็จะทำให้เสื่อมเสียเกียรติ และวันที่นายสันธนะ บุกมาที่โรงแรมพร้อมสื่อมวลชน มีการโชว์คลิปและให้ไปดูกัน 2 คน เข้าข่ายแบล็กเมล์ชัดเจน แต่สรุปแล้วเมื่อเปิดคลิปวิดีโอที่นายสันธนะ อ้างนั้นกลับไม่มีอะไร

นายชูวิทย์ กล่าวว่า เมื่อป้ายสีเรื่องยาเสพติดไม่สำเร็จ ก็หันไปเล่นงานตนด้วยธุรกิจอาบอบนวด ซึ่งตนไม่สนใจ เพราะกังวลว่าหากมาตอบโต้นายสันธนะอยู่ จะเป็นการเบี่ยงเบนประเด็นที่ตนกำลังเปิดเผยเรื่องธุรกิจทุนจีนสีเทาที่มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมการปกครอง ตำรวจ และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ที่สนับสนุนให้เกิดกระบวนการทุนจีนสีเทามาเฟียในประเทศ

อีกทั้งกรณีมาเฟีย 5 คน นายสันธนะ ก็ยอมรับเองว่ารู้จักพวกนั้นอย่างดี และยังอ้างอิงถึงร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย แสดงให้เห็นว่ามีความเกี่ยวพันหรือเกี่ยวโยงกันหรือไม่ เพราะนายสันธนะ อ้างว่าร.อ.ธรรมนัส ให้ดูแลกลุ่มนักธุรกิจชาวจีนเหล่านี้

นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า การที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปสนับสนุนชาวจีนเหล่านี้ให้ทำธุรกิจสีเทาในไทย ทำให้กลุ่มเหล่านี้เติบโตอย่างมาก เพียง 10 ปี นายตู้ห่าว สามารถมีรถทัวร์ 500 คัน มีเงินหลายพันล้าน ซื้อบ้านได้ในราคา 200-300 ล้านบาท ยิ่งกว่านั้น หากมีกฎหมายให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทยได้ ถ.สุขุมวิท และถ.รัชดาภิเษก โดยคนไทยที่หากินสุจริตไม่มีทางสู้ทุนจีนที่หากินสีเทาได้

วันนี้นายสันธนะ ไม่ได้ประกอบอาชีพใด จึงตั้งข้อสงสัยว่า นายสันธนะ รับงานมาเฟียทุนจีนหรือไม่ เพราะออกมาปกป้องบอกว่า มาเฟีย 5 คนนั้นเป็นคนดี ตนมีหลักฐานทั้งที่ข่มขู่ตนเองและปกป้องนายทุนจีน วันนี้นายสันธนะก็ไม่ยอมจบ ออกมาเล่นงานเรื่องการจ่ายภาษีในธุรกิจโรงแรม ยิ่งไปกว่านั้นได้นำข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองมาเผยแพร่อีก

“นายสันธนะ มีเป้าประสงค์จะทำลายผม โดยรับงานมาจากนายทุนจีนต่างๆ เหล่านี้ ถึงขั้นไปประกันตัวนายเดวิด แต่ประกันตัวไม่ได้ และยังออกตัวว่าทุนจีนเหล่านี้เป็นคนดี และออกตัวว่าร.อ.ธรรมนัส ฝากให้ดูแลกลุ่มทุนจีนเหล่านี้ และนายตู้ห่าวถูกส่งไปที่โรงพักยานนาวา ยังไม่ร้องตะโกน ห่าว ห่าว ห่าว เป็นพฤติกรรมที่แปลกประหลาดมาก ถ้าเป็นคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องย่อมไม่ออกตัวแบบนี้” นายชูวิทย์ กล่าว

นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนรายได้ของนายสันธนะ ที่มักบอกว่ามีรายได้จากต่างประเทศ ในรูปแบบจังเก็ต หมายถึงเอเย่นต์ชักชวนคนไปเล่นการพนัน และอาศัยรายได้จากคอร์รัปชั่นนั้น ถามว่าได้เสียภาษีหรือไม่ แต่ตนไม่อยากพูดถึงเรื่องเหล่านี้ หากนายสันธนะไม่ออกมายุ่ง

ทั้งนี้ การเปิดเผยเรื่องธุรกิจทุนจีนสีเทายังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะมีข้อมูลบางอย่างที่ยังเปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากยังต่อจิ๊กซอว์ไม่ครบ ยืนยันได้ว่ากระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่ทำลายความมั่นคงของประเทศไทยอย่างชัดเจน ถ้าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จะทำให้ในอนาคตไม่รู้เลยว่าคนไหนเป็นคนไทย คนไหนเป็นคนจีน

ผู้สื่อข่ายรายงานว่า หลังนายชูวิทย์ ชี้แจงสักระยะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เชิญสื่อมวลชนออกจากห้องประชุม เนื่องจาก กมธ.ป.ป.ช. จะซักถามในประเด็นที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ เช่น การพาตัวนายตู้ห่าวไปพบบุคคลที่ชอบสะสมนาฬิกา และนายตู้ห่าวได้มอบนาฬิกาหรูมูลค่ากว่า 10 ล้านให้บุคคลที่ชอบสะสมนาฬิกาเป็นใคร และมีคนที่ใหญ่กว่านี้หรือไม่