ชูวิทย์ ซัดภูมิใจไทยปิดปาก ปมกัญชา ลั่นปชช.ต้องวิจารณ์พรรคการเมืองได้

Home » ชูวิทย์ ซัดภูมิใจไทยปิดปาก ปมกัญชา ลั่นปชช.ต้องวิจารณ์พรรคการเมืองได้



ชูวิทย์ ซัดภูมิใจไทยปิดปาก ปมกัญชา ลักไก่ปลดล็อกจากยาเสพติด ลั่นประชาชนต้องวิจารณ์พรรคการเมืองได้ ชี้เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

วันที่ 7 เม.ย. 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กภายหลังศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร้องขอห้ามนายชูวิทย์ พูดถึงนโยบายกัญชาเสรี ในช่วงระหว่างการหาเสียง โดยมีใจความว่า ตนเพียงใช้ “สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน” วิพากษ์วิจารณ์นโยบาย “กัญชา” ที่ขายมอมเมากันทั่วบ้านทั่วเมือง

เมื่อศาลมีคำสั่งคุ้มครอง “ชั่วคราว” ฉุกเฉิน ก่อนพิพากษา เป็นมาตรการที่ใช้ก่อนการตัดสิน เพื่อคุ้มครองประโยชน์ แต่พรรคภูมิใจไทยเสียหายอะไร หากแน่จริงอย่างปากว่า คะแนนเสียงดีขึ้น โพลล์ต่างๆ นำ ก็ไม่เห็นต้องมาปิดปากตนที่เป็นประชาชนแค่คนเดียว แสดงว่าไม่ได้เป็นพรรคการเมือง แต่มีสภาพเป็น “บริษัท” มากกว่า และกลัวกำไรลดลง

เรื่องการคุ้มครองชั่วคราว ยังไม่รู้ฝ่ายใดถูก ฝ่ายใดผิด ยังไม่จบ แต่กลับทำเสมือนชนะคดีไปแล้ว จนพรรคภูมิใจไทยไปประกาศ “ชัยชนะ” กับประชาชนคนเดียวอย่างตน ตนละเมิดจริงหรือเปล่ายังไม่รู้ เพราะต้องรอวันพิพากษาศาลก่อน

ครั้งนี้เป็นการปะทะกันระหว่าง การอ้างชื่อเสียงของพรรคการเมือง กับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน นักกฎหมายต้องตีความให้ดี เพราะจะเป็นบรรทัดฐานต่อไป เมื่อพรรคการเมืองนำเสนอนโยบายต่อสาธารณะ จึงควรถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนได้

ยิ่งเป็นเรื่องกัญชาที่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทยด้วย หากไม่ให้ทำ ก็เสมือนจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ตราบเท่าที่ตนไม่ได้ละเมิดตัวบทกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่ได้แสดงออกถึงการต่อต้านตัวบุคคลอันเป็นการละเมิดสิทธิบุคคลอื่น แต่เป็นนโยบายสาธารณะที่พรรคการเมืองนำมาใช้กับประชาชนทุกคน

ต่อไปหากมีนโยบาย “ทำแท้งเสรี” หรือนโยบาย “เปิดคาสิโนเสรี” นำเสนอจากพรรคการเมืองใด ประชาชนต้องสามารถต่อต้าน วิพากษ์วิจารณ์ แสดงความคิดเห็นถึงนโยบายสาธารณะอย่างนี้ได้อย่างเสรี มีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

พรรคการเมืองรับอาสาทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนผ่านการเลือกตั้ง จึงสมควรต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยเฉพาะในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคการเมืองจัดเวทีปราศรัย หรือติดป้ายตามเสาไฟฟ้า หากทำได้ไม่จริง ก็ต้องประท้วง ไปประจานหน้าพรรคจะห้ามกันได้อย่างไร?

ประชาชนอย่างตนไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด หรือเป็นศัตรูคู่แข่ง หรือหวังเติบโตทางการเมือง แต่การนำกัญชามาใช้ของพรรคภูมิใจไทย อย่างไร้การควบคุม ส่งผลร้ายต่อสังคม เยาวชน มีการใช้อย่างผิดๆ ไม่มีการเผยแพร่ข้อเสียของกัญชา และอ้างเอาว่าเป็น “กัญชาทางการแพทย์” แต่ความเป็นจริงแล้ว มีการขายอย่างเสรีทั่วไปให้ประชาชนได้เห็นด้วยตาของตัวเองทั้งสิ้น

การปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด จึงเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก ให้หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เพียงคนเดียวตัดสินใจไม่ได้ ต้องผ่านการกลั่นกรองจากสภาเป็นกฎหมาย รับฟังความคิดเห็นของประชาชน สังคม แพทย์ สมาคม ชุมชน หรือกระทั่งจัดทำ “ประชาพิจารณ์”

แต่ที่ผ่านมาไม่มีกระบวนการใดๆ ทั้งสิ้น ลักไก่ใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุขปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชี “ยาเสพติด” เท่านั้น พรรคภูมิใจไทยจะชี้แจงก็ย่อมทำได้ เพราะมีผู้สมัคร ส.ส. ทั่วประเทศ หรือผ่านเครือข่ายพรรค รวมถึงอำนาจรัฐในกระทรวงสาธารณสุข แต่กลับมาเลือกวิธี “ศาลคุ้มครองชั่วคราวฉุกเฉิน”

ทั้งนี้ นายชูวิทย์บอกว่าพร้อมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น จะเข้าคุกเข้าตะรางก็พร้อม

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ