ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ฝากถึงสัมภเวสี ประโยคนี้โคตรแรง!

Home » ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ฝากถึงสัมภเวสี ประโยคนี้โคตรแรง!
ชูวิทย์

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เคลื่อนไหวล่าสุด หลังหอบเงิน 6 ล้าน ถวายพานหน้ากองปราบ ลั่น ถึงสัมภเวสีหลายตน บอกเลยงานนี้โดนจวกกันถ้วนหน้า

เอาอีกแล้วมีเรื่องให้ชาวเน็ตได้ติดตามกันอีกแล้ว ล่าสุด 1 เม.ย 66 ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักแฉตัวพ่อของเมืองไทย ออกมาเคลื่อนไหวล่าสุด หลังหอบเงิน 6 ล้านบาทถวายพานสาบานหน้ากองปราบ ครั้งนี้ ชูวิทย์ ขอฝากถึง สัมภเวสี หลายตน อีกทั้งยังกล่าวถึงการทำบุญของตนเอง ว่าอาจจะเป็นคนทำบุญไม่ขึ้น แต่ทำบาปไหลลื่นนักแล โดยเจ้าตัวนั้นโพสต์ร่ายยาวว่า

สัมภเวสี วิญญาณเร่ร่อน ผมนำเงินสด 6 ล้านบาท ที่รับคืนมาจากโรงพยาบาลศิริราช และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ไปส่งให้กองปราบเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หมอบอก เป็นครั้งแรกที่มีการคืนเงินผู้บริจาค นับว่ามีบาปหนาติดตัวอยู่ มีจิตกุศลนำเงินไปให้ “กายวิภาคศาสตร์” ทุกครั้ง รวมถึงรถขนร่างอาจารย์ใหญ่ แต่ครั้งนี้ดันมี “สัมภเวสี ผีเร่ร่อน” มาฉกฉวยแสง ทำให้หมอ และโรงพยาบาลกลัว

เมื่อก่อนสร้างป้อมจราจรให้ตำรวจตามสี่แยกทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2535 รวม 70 กว่าป้อมต่อมาถูกรื้อบ้าง เอาป้ายออกบ้าง เพราะทะเลาะกับตำรวจ จนเหลือเป็นอนุสรณ์อยู่ไม่กี่ที่ ผมคงทำบุญไม่ขึ้น แต่เรื่องทำบาปกลับราบรื่นนักแล ให้เปิดโปงคนชั่วที่คนอื่นจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน เป็นอันต้องมาตกม้าตายเพราะผมนักต่อนัก

ไม่ว่า “ทนายประชาชน” คิดเงิน “ค่าแถลงข่าว” 300,000 บาท แล้วอ้างเป็นค่าเสี่ยงภัย กลัวถูกฟ้อง ทั้งที่มีหน้าที่ว่าความที่ศาล แต่ดันไปเลือกหาแสงแถลงข่าวแทน อยากอัพเกรดเป็น “เซเลบ” กำหนดทิศทางของสังคม ทั้งที่เพิ่งไต่ชั้นเพราะ “ถูกหวย” พร้อมลูกความ

รวมหัวกับทนายโซเชียล ความรู้กฎหมายเท่าหางอึ่ง ใช้ชีวิตเกินฐานะ บ้าแบรนด์เนม เสื้อตัวละแสน นาฬิกาเรือนละหลายล้าน บนความเดือดร้อนของคนที่จำเป็นต้องหาทนาย แต่ดันเลือกทนายผิดคน นี่ก็เป็นสัมภเวสีอีกประเภทของสังคมยุคขาดที่ยึดเหนี่ยว

เอาเด็กสบสนกับชีวิตมาทำอาชีพที่ต้องใช้ “คุณธรรม” กั้นด้วยเส้นบางๆ กับ “ความโลภ” ที่อยากได้เงินไปบำเรอความสุขล้นเหลือให้ตัวเองเพราะกลัวดูจน กลุ่มเป้าหมายของสัมภเวสีตนนี้ จะเน้นที่คนไม่รู้เรื่องกฎหมาย เป็นชาวบ้านแต่ต้องมีเงิน และเล่นโซเชียล พอเห็นพูดหน้าจอก็คิดว่าเก่ง เวลามีเรื่องเข้าไปหารือก็โดนแทะไปเรื่อย ค่อยๆ สูบหนัก อ้างรู้จักหมด โดยเฉพาะตำรวจใหญ่ที่เก็บสัมภเวสีตนนี้ไว้ใช้งาน เพราะออกหน้าเองไม่ได้ เล่นบทเป็น “เทพเจ้า” อยู่

ส่วน “สัมภเวสีหัวล้าน” ที่อาศัยเดินตามนายตำรวจผู้ใหญ่ หรือใครดังที่เป็นกระแส ทำยืนข้างเดินตามให้ติดกล้องดูดแสง งานอะไรที่ได้แสงเป็นต้องวิ่งหา บอกช่วยเหลือเหยื่อ ไม่มีเหยื่อมาหาก็เลยวิ่งหาเหยื่อเสียเอง รู้ไปหมดทุกเรื่อง เล่าได้เป็นฉากๆ อย่างกับกำกับเอง เป็นสัมภเวสีตนที่สองของสังคมหิวโหยแสง กลุ่มเป้าหมายคือ ตำรวจสีเทา ฉกฉวยของเซ่นไหว้ เล็กๆ น้อยๆ ได้แค่เศษกระดูกที่หมาแมวแทะทิ้งไว้

ยังมี “เฒ่าสารพัดพิษ” เป็นสัมภเวสีอีกตนที่คงความแก่กล้าอวิชชา เอาธรรมะบังหน้าแต่เบื้องหลังบ้ากามสุด มีหน้าที่นำความจริงมาเล่าให้ประชาชน แต่แก่เกินแกง กลับนำความเท็จมาขู่ให้กลัวเพื่อฉกฉวยประโยชน์ใส่ตนเอง ตอนทำม็อบก็ไปหลอกสร้างผลงานแตกแยกจนเป็นเจ้าแห่งผีเร่ร่อน เคยทำพิธีล้างป่าช้า เรียกคนทุกสารทิศมาเข้าพิธี ใช้เวทมนต์ดำจนคนหลงอยู่พัก ถึงขนาดกล้าปิดวัดไล่เจ้าอาวาส ทำตัวเป็น “ผีเร่ร่อนไถส่วนบุญ”

เรียกขานกันว่า “ผีบุญเฒ่า” เพราะอ้างบุญคุณทำเพื่อชาติ กู้ชาติจนชาติเจ๊งแต่ตัวเองรวย มีเงินฝากเมืองนอก แต่เมืองไทยทำเป็นสมถะ หลังพิงพระพิงวัด เนื่องจากอยู่ในวงการผีมานาน คืนพระจันทร์เต็มดวงแปลงเป็น “ผีกระสือ” กินของสกปรกเป็นนิจ แต่พอกลางวันอวตารเป็นนักบุญสวดภาวนา บริกรรมคาถาผิดๆ หลอกสาวก

หมู่นี้สัมภเวสีผีเร่ร่อนมันมาก ตัวผมก็ไม่ได้ดีเด่ เป็นผีเหมือนกัน จึงรู้เท่าทัน “ผีเห็นผี” ไม่กลัวผีด้วยกัน ผีอย่างผมดูง่ายเพราะรับว่าเป็นผี แต่ที่เป็นผีแล้วบอกว่าเป็น “เทวดา” นี่สิ ต้องลงอาคม แล้วจับลงหม้อถ่วงน้ำ ไม่อย่างนั้นไปหลอกหลอนชาวบ้านไม่เป็นอันกินอันนอน

  • อัจฉริยะ ร้อง กองปราบฯ เอาผิดนายตำรวจ ปม เงิน 6 ล้าน จากสารวัตรซัว ไปให้ชูวิทย์
  • ทนายตั้มเดินหน้าแฉชูวิทย์ ไม่กลัวถูกฟ้อง 100 ล้าน สาบานไม่ได้รับงานแก๊งเว็บพนัน
  • อดดูมวยคู่เอก ชูวิทย์ คิวไม่ว่างไปเจอ ทนายตั้ม เพราะต้องไปขึ้นศาล ปะทะ สันธนะ

ย้อนเหตุการณ์ ชูวิทย์หอบเงิน 6 ล้าน

โดยหากย้อนไปเหตุการณ์เมื่อวานนี้ 31 มี.ค. 66 ถือว่าเป็นซีนใหญ่ส่งท้ายเดือนเลยก็ว่าได้ เมื่อ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้เดินทางไปยัง กองบังคับการปราบปราม พร้อมเงินสดจำนวน 6 ล้านบ้าน อีกทั้งยังมีของไหว้บูชา หมูเห็ดเป็ดไก่ โดยเมื่อ ชูวิทย์ ถึงกองบังคับการปราบปราม ก็ได้ทำการปูผ้าและนำเงิน 6 ล้านบาทมาวางบนพาน พร้อมจุดธูปสาบาน ขับไล่สัมภเวสี และกล่าวว่า

ข้าพเจ้านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ข้าขอเซ่นไหว้หมูเห็ดเป็ดไก่เหล้า ให้กับสัมภเวสี เงินต่างๆ ที่นำมาผมก็รับ และนำเงินไปบริจาค แต่ว่ามีวิญญาณเร่ร่อน สัมภเวสี ที่เข้ามาฉกฉวยแย่งซีน ผมนั้นทำอะไรเปิดเผย แต่เดี๋ยวผมจะพูดให้ฟังว่ามีใครที่ไม่เปิดเผย ผมยอมรับตรงๆ แต่สัมภเวสีต่างๆก็มาก่อกวน จึงนำของเซ่นไหว้เหล่านี้มาให้ จะได้ปล่อยให้ผมไปทำบุญ ให้โรงพยาบาลและคนยากไร้

พร้อมโชว์ใบเสร็จให้สื่อมวลชนรับทราบ ชูวิทย์ นั้นกล่าวต่อว่า เงินเหล่านี้ที่เอามาให้ผม ผมก็ไม่ได้เอาเข้าบัญชีผม ผมไม่โง่อย่างนั้น ผมเอาเงินทั้งหมดไปซื้อแคชเชียร์เช็ค เพื่อมอบให้โรงพยาบาลศิริราชและธรรมศาสตร์ (โรงพยาบาลละ 3 ล้านบาท) ไม่ได้ผ่านบัญชีผมเลย พวกสัมภเวสีรู้ดีไปหมด แต่ไม่มีใครอยู่ในเหตุการณ์สักคน ผมยอมรับว่ารับเงินจริง แต่ไม่ได้เข้าผมสักบาท อยากให้ทุกคนได้เข้าใจ

image

ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ

Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ