“ชูวิทย์”ย้อนอดีต โพสต์ภาพ เนวินกอดทักษิณ ขู่ต่อต้านเพื่อไทยหากให้ ภูมิใจไทย ร่วมตั้งรัฐบาล ชี้นโยบาย กัญชาเสรี ทำร้ายสังคม
วันที่ 30 เม.ย.2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมภาพ เนวิน ชิดชอบ กอด ทักษิณ ชินวัตร ระบุ ทักษิณกับเนวิน อดีตที่ลืมไม่ลง นายอนุทินแบไต๋บอกว่า “จับมือได้ทุกขั้ว” หลังเลือกตั้งคะแนนออก ให้พรรคได้เสียงข้างมากรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ก่อน
ส่งสัญญาณถึงนายทักษิณให้ลืมอดีตที่ผ่านมากับนายเนวินที่หัก “นายเก่า” ด้วยประโยคติดหู “มันจบแล้วครับนาย” ข้ามขั้วไปกอดกับนายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในขณะนั้น จัดตั้งรัฐบาลให้นายอภิสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกฯ ส่วนตัวนายเนวินปาดหน้าเค้กงาบเอา “กระทรวงมหาดไทย” และ “กระทรวงคมนาคม” ไปครองชนิดเชิงการเมืองชั้นครูจนได้รับฉายา “ครูใหญ่”
จากนั้นสะสมทุนตั้งพรรค “ภูมิใจไทย” ขึ้นมาได้ถึงทุกวันนี้ เลือกตั้งครั้งก่อน ปี 2562 ก็ยังถีบหัวส่งพรรค “เพื่อไทย” ไปเป็นฝ่ายค้านอยู่ 4 ปีเต็ม ส่วนตัวเองไปร่วมกับ “บิ๊กตู่” ในการจัดตั้งรัฐบาล
แค้นนี้คงไม่มีวันลืม เจ็บแล้วต้องจำ แม้ถึงวันนี้ นายอนุทินจะพร่ำบอกว่า “ให้นายทักษิณลืมอดีต เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะเจ้าคิดเจ้าแค้นไปถึงไหน?”
ที่พูดเพราะนายอนุทินได้รับการอบรมจาก “ครูการเมืองชื่อเนวิน” ผู้เป็นโค้ชสอนเชิงมาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำโด่งในทุกโพลล์ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยสาละวันเตี้ยลง จึงงัดกลยุทธ์ขอสมานฉันท์เอาหน้าด้านๆ ทีได้เอา ทีเสียก็จะพลิกเอาอีก ตามวิสัยของผู้รับเหมาผสมนักการเมือง ไม่มีอุดมการณ์ใดๆ ไม่มีจุดยืนใดๆ ไม่มีความจริงใดๆ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เปรียบเสมือนนายอนุทินทำธุรกิจการค้าหากำไรจากการเป็นรัฐบาลอย่างเดียว
จึงขอเตือนนายทักษิณ และพรรคเพื่อไทย หลังผลคะแนนออก มองข้ามช็อตการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล จะต้องให้พรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน โดยนายอนุทินเป็น “ผู้นำฝ่ายค้านในสภา “ เพื่อให้เห็นการทำงานเพื่อประชาชนในสถานะฝ่ายค้าน ภารกิจใหม่ในการต่อต้าน “พรรคภูมิใจไทย” ให้เป็นฝ่ายค้านจะเริ่มขึ้นทันที อันเนื่องมาจากนโยบาย “กัญชาเสรี” ที่ทำร้ายสังคม ประชาชนต้องให้ “บทเรียน” แก่พรรคการเมือง ให้ได้รับโทษ เพื่อไม่ให้กระทำการเยี่ยงนี้อีก เป็นตัวอย่างการสร้างเกราะป้องกันตัวให้กับสังคมต่อพรรคการเมือง
หากพรรคเพื่อไทยไปร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย ผมจะขอต่อต้านพรรคเพื่อไทยด้วย เพราะถือว่าพรรคภูมิใจไทยเป็นผู้นำเอา “กัญชา” ปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดเข้าสู่สังคม ทำให้เยาวชนเสี่ยงตกเป็นเหยื่อของกัญชาที่มีขายอย่างเสรีทั่วบ้านทั่วเมืองในขณะนี้ โดยอ้างเอา “กัญชาทางการแพทย์” มาบังหน้า หากไม่ลงโทษพรรคภูมิใจไทยให้เป็นเยี่ยงอย่าง จะกำเริบเสิบสาน พรรคการเมืองใดกระทำการเช่นนี้อีก นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสังคม
ที่นำเอายาเสพติดเข้าสู่สังคมไทย จับเยาวชนไทยเป็นตัวประกัน โดยไม่ได้มีกฎหมายควบคุมเหมือนประเทศอื่นๆ ต่อต้านกัญชาเสรี ต่อต้านพรรคภูมิใจไทยไม่ให้เป็นรัฐบาล นำกัญชากลับให้เป็นยาเสพติด และให้ใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น นี่คือคำสัญญาประชาคม จากประชาชนอย่างผม