เมื่อ 23 สิงหาคม 2564 พลตำรวจตรีภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บังคับการปฏิบัติการพิเศษ กองบัญชาการสอบสวนกลาง สั่งการให้ พันตำรวจเอกอภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ นำกำลังเจ้าหน้าที่คอมมานโดกองปราบปราม ติดตามค้นหาตัวนายมัธทิว หรือ ทิว วรรณกุล อายุ 26 ปี ชาวอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดหล่มสัก ที่ จ43/2564 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2564 ในฐานความผิดคดีฉ้อโกง ในท้องที่ สภ.น้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ จากพฤติกรรมหลอกลวงเป็นนายหน้าค้าควาย
เจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลาสืบสวนติดตามจนทราบว่านายมัธทิว ได้หลบหนีมากบดานอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ ในตำบลท่าขึ้น อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของผู้ที่ตั้งตนเป็นฤาษีหมอทางด้านไสยเวทย์ หรือหมอผีชื่อดังในพื้นที่ โดยนายมัธทิว ได้อ้างว่าถูกมนต์ดำได้เข้ามารักษาตัวกับเจ้าพิธี
หลังจากเจ้าหน้าที่สืบสวนจนแน่ชัดจึงนำหมายจับเข้าแสดงตัวและจับกุมนายมัธทิว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ถึงกับหน้าซีดเผือด ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวสวมกุญแจมือทันทีแต่ยังให้การปฏิเสธ ต่อมาเจ้าหน้าที่คุมตัวเข้าทำการสอบประวัติอาชญากรในระบบของเจ้าหน้าที่พบว่านายมัธทิว ยังมีหมายจับติดตัวอีก 2 หมายคือหมายจับศาลแขวงพระนครศรีอยุธยาที่ จ17/2564 และหมายจับศาลจังหวัดกบินทร์บุรีที่ 30/2564 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2564
ทั้งสองหมายเป็นความผิดในคดีร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ของผู้อื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบว่านายมัธทิวพร้อมพวกอีกจำนวนหนึ่ง ตั้งตนเป็นนายค้าควาย หรือที่รียกในวงการว่า “แก๊งต้มควาย” หลอกขายหรือหลอกซื้อควายจากชาวบ้าน แล้วฉ้อโกงโดยมีพฤติกรรมก่อคดีคล้ายๆกัน หลังจากที่ต้องคดีหลายคดีในภาคกลาง ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่กับฤาษีรายหนึ่งซึ่งอ้างว่ามารักษาตัวจากการโดนมนต์ดำ ซึ่งเป็นคนรู้จักในพื้นที่อำเภอท่าศาลา จนเจ้าหน้าที่ตามจับกุมไว้ได้