ชี้ ผู้นำเดนมาร์ก ละเมิดกฎหมาย แต่ไม่เจตนา เคยสั่งฆ่ามิงก์ 17 ล้านตัว สกัดโควิด
วันที่ 1 ก.ค. บีบีซี รายงานว่า นายกรัฐมนตรีหญิงน.ส.เมตเต เฟรเดอริกเซน ผู้นำเดนมาร์ก ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากคณะกรรมการที่รัฐสภาแต่งตั้งเพื่อสอบสวนการตัดสินใจของรัฐบาลในการฆ่ามิงก์ในฟาร์มทั่วประเทศมากถึง 17 ล้านตัว เมื่อเดือนพ.ย. 2563 เพื่อพยายามยับยั้งการระบาดของโควิด-19 หลังพบโควิดกลายพันธุ์ในฟาร์มมิงก์บางแห่งทางเหนือของประเทศ
คณะกรรมการดังกล่าวในรายงานการสอบสวนว่า ถ้อยแถลงของน.ส.เฟรเดอริกเซนที่ประกาศการฆ่ามิงก์สร้างความเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงต่อทั้งผู้เพาะเลี้ยงมิงก์และสาธารณชน และคำสั่งดังกล่าวเป็นการละเมิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ผู้นำหญิงไม่ได้เจตนาเนื่องจากไม่ทราบว่าการสั่งฆ่าประชากรมิงก์ผิดกฎหมาย โดยสะท้อนคำอธิบายก่อนหน้านี้ที่กล่าวโทษภาระงานหนักของรัฐบาลในการกำกับดูแลประเด็นดังกล่าว
รายงานยังวิจารณ์เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนอย่างหนัก รวมถึง มอเกนส์ เจนเซน อดีตรัฐมนตรีเกษตร และ บาบารา เบอร์เตลเซน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกพบประพฤติมิชอบร้ายแรง พร้อมเสนอลงโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่ระดับสูง 10 คน หนึ่งในนี้คือผู้บัญชาการตำรวจเดนมาร์ก ธอร์คิลด์ ฟ็อกเด ที่ถูกกล่าวหาประพฤติมิชอบที่ไม่สามารถทักท้วงได้ทันท่วงทีเมื่อได้รับแจ้งว่าไม่มีกฎหมายรองรับสำหรับการฆ่ามิงก์
ทั้งนี้ น.ส.เฟรเดอริกเซนออกคำสั่งฆ่ามิงก์ที่ทั้งติดเชื้อและแข็งแรงทั้งหมดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2563 ทำให้ผู้เพาะเลี้ยงสูญเสียอาชีพการงาน ซึ่งปรากฏในภาพร้องไห้ออกสื่อ ขณะที่หลุมศพจำนวนมากโผล่ในชนบทของเดนมาร์กที่เต็มไปด้วยมิงก์ที่ถูกฆ่า
แต่ไม่กี่วันต่อมาปรากฏว่าคำสั่งดังกล่าวไม่มีกรอบกฎหมายรองรับ จึงเกิดกระแสความไม่พอใจต่อสาธารณชนและการเมือง จนรัฐมนตรีเกษตรในเวลานั้นต้องลาออก ตลอดจนการเปิดการสอบสวนประเด็นที่รัฐบาลทราบหรือไม่ว่า ไม่มีกรอบกฎหมาย เมื่อมีคำสั่งฆ่ามิงก์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
เดนมาร์กขุดหลุมฝังตัวมิงก์ 17 ล้านตัว ป้องกันเชื้อโควิด-19แพร่ระบาดสู่คน