ผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่า แสงเลเซอร์ลึกลับบนฮาวายที่ถูกพบเมื่อเดือนที่แล้วไม่ใช่ดาวเทียมของ NASA (นาซา) แต่แท้จริงแล้วเป็นดาวเทียมของจีน ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังที่เพิ่งมีข่าวบอลลูนสอดแนมของจีนได้ล่วงล้ำน่านฟ้าของสหรัฐฯ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า แสงเลเซอร์สีเขียวทีปรากฏบนท้องฟ้าฮาวายที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากเมื่อวันที่ 28 ม.ค. โดยนักวิทยาศาสตร์จากญี่ปุ่น ระบุว่า เป็นแสงจากดาวเทียมขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) แต่แล้วเมื่อวันที่ 6 ก.พ. นักวิทยาศาสตร์จากญี่ปุ่นได้ออกมาชี้แจงอีกครั้งหลังทำการจำลองวิถีโคจรของดาวเทียมพบว่า แสงเลเซอร์ดังกล่าวเป็นแสงของดาวเทียม Daqi-1/AEMS ของจีน พร้อมทั้งกล่าวขอโทษเกี่ยวข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นว่า “เราซาบซึ้งในความพยายามของพวกเขาในการระบุว่าแสงดังกลาวมาจากที่ใด และขออภัยเกี่ยวกับความสับสนของเราที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับทีม ICESat-2”
ขณะที่ดร. อัลบาโร อิวานอฟฟ์ ได้จำลองสถานการณ์ และตั้งทฤษฎีว่ามาจากดาวเทียม Daqi-1/AEMS ของจีน ตามคำบอกเล่าของ ดร. มาร์ติโน, แอนโธนี เจ (Dr. Martino, Anthony J.) นักวิทยาศาสตร์ของนาซา ที่ทำงานเกี่ยวกับ ICESat-2 ATLAS ระบุว่า มันไม่ได้เกิดจากเครื่องมือของพวกเขาแต่เกิดจากฝีมือคนอื่น
ทั้งนี้ เหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐดูเหมือนว่าจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยเมื่อวันที่ 11 ก.พ. ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา สั่งการให้ยิงวัตถุต้องสงสัยซึ่งลอยอยู่ที่ระดับสูง 12,000 เมตร เหนือน่านฟ้าชายฝั่งตอนเหนือของรัฐอะแลสกา เบื้องต้นยังไม่สามารถบ่งชี้แหล่งที่มา รวมถึงจุดประสงค์ของวัตถุปริศนา