สุดแสนสันโดษ ชายชาวจีนใช้ชีวิตในเต็นท์คนเดียวบนกองขยะ หลังตกงาน ด้วยเงินเก็บก้อนสุดท้าย ไม่คิดหวนสังคม
เว็บไซต์ เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานเรื่องราวน่าประหลาดใจที่เกิดขึ้นในประเทศจีน เมื่อชายคนหนึ่ง “แซ่หลี่” วัย 29 ปี ได้อาศัยอยู่ในเต็นท์ท่ามกลางกองขยะตั้งแต่ปี 2561เนื่องจากเขาตกงาน จึงขายทรัพย์สินทั้งหมดที่มีเพื่อเอาเงินมาประทังชีวิตไปวันๆ
ตามรายงานระบุว่า ชายรายนี้ได้ลาออกจากงานประจำของเขาในมณฑลเสฉวน และใช้เวลาทั้งวันนอนอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ของเขา ทว่าเขาระลึกได้ว่าการที่เขาไม่มีงาน ทำให้เขาไม่สามารถจะจ่ายค่าเช่าของเขาได้ เขาจึงตัดสินใจขายเครื่องใช้ทั้งหมด และซื้อเต็นท์ราคา 2,000 บาทและตั้งอยู่ที่สวนที่ถูกทิ้งร้างสภาพดั่งกองขยะ โดยเขาอาศัยอยู่ในสถานที่แห่งนี้มา 200 วันแล้ว ด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ 2 ชุด เตาทำอาหาร และหม้อเล็กๆ อันนึง ซึ่งยังไม่มีทีท่าที่เขาจะหวนกลับคืนสังคม
จากการให้สัมภาษณ์ของนายหลี่ เล่าว่า เขาประทังชีวิตด้วยการทานอาหารอย่างบะหมี่สำเร็จรูปหรือ เกี๊ยว บางครั้งเขาก็จะทำหม้อไฟ โดยในแต่ละวันเขาจะใช้เงินเพียง 10 หยวนหรือราว 50 บาทแค่นั้น นอกจากนี้บางครั้งเขายังต้องเดินตามหาน้ำดื่มและหาสถานที่ชาร์จมือถือด้วย แม้ว่าหลายคนอาจจะมองว่าชีวิตแบบนี้มันไม่สะดวกสบาย แต่สำหรับเขานั้นเขารู้สึกมีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบนี้
อย่างไรก็ตาม เขาให้สัมภาษณ์อีกว่า มันเป็นทางเลือกของเขา และเมื่อคุณปล่อยชีวิตการไล่ตามความฝันที่ว่างเปล่า คุณจะรู้สึกถึงความสงบ ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมากๆ นอกจากนี้เขายังพูดด้วยว่า เขาจะกลับไปทำงานตอนไหนก็ได้ และเพื่อนเขาก็เสนอจะให้ยืมเงินเพื่อไปเปิดกิจการ แต่เขาเลือกจะไม่ทำ
ทั้งนี้ ด้านชาวเน็ตได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเรื่องราวของชายรายนี้ โดยหลายคนรู้สึกกังวลเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเขา บางคนคิดว่า เขาอาจได้รับผลกระทบจากเรื่องอะไรบางอย่างทำให้จิตใจของเขาบอบช้ำและต่อต้านการเข้าสังคมขนาดนี้ ซึ่งนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการปรับวัฒนธรรมการทำงานในจีนที่เต็มไปด้วยความกดดันและเครียด