การแข่งขันชินลง ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อ 8 พ.ค. นักกีฬาไทย ซึ่งคว้าไปแล้วก่อนหน้านี้ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน ลงในประเภทอีเวนต์ที่ 3 ไทยส่งทีมหญิง ที่ ประกอบด้วย จิราพร พาราศรี, เกศสินีย์ โปยิ้ม, เยาวลักษณ์ ใจซื่อ, สุวรรณา เพ็ชรสมร, พรไพรินทร์ แป้นทอง และ กัลยารัตน์ พลับวังกล่ำ ลงตัวหลัก พร้อมด้วยผู้เล่นสำรอง สุจิตรา นะวะสิมมา และ พิมพิกา มุ่งสู่เพ็ง ลงชิงชัยร่วมกับ ลาว เมียนมา และเจ้าภาพกัมพูชา

ในอีเวนต์ที่ 3 จะบังคับให้นักกีฬาแต่ละคนในทีมเตะคนละ 6 ท่า (หลังเท้า, แป, เข่า, ตบ, ส้น, ข้าง) เมื่อคนหนึ่งเตะครบ 6 ท่าถึงจะคิด 1 คะแนน โดยรอบแรกเป็นการลงสนามแข่งขันเพื่อจัดอันดับ ผลเป็นทัพชินลงสาวไทยทำแต้มได้มากที่สุดจากทั้งหมด 4 ชาติ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปปะทะกับ เมียนมา ต้นตำรับกีฬาชินลงที่เข้ามาเป็นอันดับที่ 2 ผลปรากฎว่าไทยทำคะแนนเข้าป้ายไป 317-306 คว้าเหรียญทองที่ 2 ให้แก่ทัพชินลงทีมชาติไทยได้สำเร็จ และเป็นเหรียญทองแรกของทีมหญิง หลังไปพลาดได้เพียงเหรียญเงินในอีเวนต์แรก รวมทัพชินลงไทยคว้าไป แล้ว 2 เหรียญทอง กับ อีก 2 เหรียญเงิน โดยทั้งทีมหญิงและทีมชายของไทยมีโปรแกรมวันสุดท้ายวันถัดไปในอีเวนต์ ที่ 4 ให้ลุ้นเหรียญทองกันต่อ

หลังเกม การแข่งขัน นายสุพจน์ ตุ้มประชา ผู้จัดการทัพชินลงหญิงทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เป็นอะไรที่ค่อนข้างยากเพราะคู่แข่งในรอบชิงคือเมียนมาต้นตำรับและพวกเขาทำกันได้ดีมากๆ ดังนั้นจึงพยายามกำชับเด็กๆ ว่าต้องนิ่งและใช้ความเสถียรในการเตะอย่างมาก ซึ่งจุดแข็งที่เราสามารถเอาชนะต้นตำรับได้น่าจะเป็นเพราะเด็กชินลงเราคือนักกีฬาตะกร้อ ตะกร้อไทยเราเก่งมากอยู่แล้ว