ชาวเน็ตตัดพ้อ โดนปฏิเสธสอนขับรถ แม้จ่ายเงินแล้ว เหตุมีเชื้อ HIV ระดับไม่แพร่เชื้อ ย้ำสังคมควรมีความเข้าใจและไม่รังเกียจผู้ติดเชื้อ

ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งเล่าประสบการณ์สุดช้ำใจ หลังโรงเรียนสอนขับรถแห่งหนึ่งปฏิเสธการสอนขับรถยนต์ แม้ว่าจะจ่ายเงินค่าเล่าเรียนและตรวจร่างกายยืนยันด้วยใบรับรองแพทย์ เพียงเพราะมีสถานะเป็น HIV+ undetectable ที่ไม่เป็นอันตรายและไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อให้แก่ใครโดยไม่เจตนา

โดยระบุว่า “วันนี้เป็นวันที่โกรธที่สุดในชีวิต โกรธจนร้องไห้ เพราะเราถูกโรงเรียนสอนขับรถแห่งหนึ่งปฏิเสธการสอนเรา ทั้งที่จ่ายเงินและตรวจสายตาเรียบร้อยแล้ว เพียงเพราะแค่เราระบุในใบรับรองแพทย์ว่ามีสถานะเป็น HIV+ undetectable เรื่องมีอยู่ว่าวันนี้เข้าไปตรวจสายตาก่อนเข้าเรียนขับรถในวันพรุ่งนี้ เราได้ติดเอาใบรับรองแพทย์ที่ทางโรงเรียนขอก่อนเข้าเรียน ซึ่งเราระบุโรคประจำตัวว่าเราเป็นผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV ซึ่งเราเป็นมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย และทานยานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จน undetectable”

“ทันทีที่เราตรวจสายตา วัดการตอบสนองใด ๆ ผ่านเรียบร้อย ทางโรงเรียนได้ขอใบรับรองแพทย์และให้เรานั่งรอประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นพนักงานที่รับเรื่องก็เดินมาว่าผู้บริหารขอสายเรา และอยากสอบถามเพิ่มเติมถึงสถานะของเรา โดยเขาได้ถามเราว่า คำว่า undetectable คืออะไร ซึ่งเราได้อธิบายว่าคือสถานะที่เชื้อต่ำจนไม่สามารถตรวจพบได้ และได้รับการรักษามาตลอดอย่างสม่ำเสมอหลังจากนั้นผู้บริหารของโรงเรียนบอกว่าได้คุยกับครูผู้สอนของโรงเรียนแล้ว ทางครูไม่สะดวกใจที่จะสอนจึงอยากขอคืนเงินเต็มจำนวน”

“เราก็อธิบายต่อว่ามันไม่มีผลอะไรกับการขับรถยนต์เลยนะ สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ทางโรงเรียนยังยืนยันว่าได้คุยกับครูแล้วจริง ๆ ก่อนหน้านี้ได้มีการตกลงตาราง จัดหาครูผู้สอน กำหนดวันสอบไว้เรียบร้อย และขอยกเลิกทุกอย่าง พร้อมกับขอโทษและคืนเงินให้เราไปโรงเรียนอื่น เราได้อธิบายเพิ่มและย้ำว่าเราปลอดภัยจริง ๆ สุขภาพแข็งแรง ตรวจมาแล้วเมื่อต้นปี ทุกอย่างปกติดีด้วยซ้ำ สุขภาพแข็งแรงจริง ๆ และเราใช้เวลาหาโรงเรียนนานพอสมควร กว่าจะมาลงที่นี่ที่ทั้งใกล้บ้านและโอเคตารางเรียน แต่ทางผู้บริหารบอกว่ายังไม่สะดวกสอนอยู่ดี เราเลยตัดสินใจขอเงินคืนโดยเร็วที่สุด และอยากออกไปจากที่นั่นมาก ๆ “

“สิ่งที่เราไม่พอใจที่สุดคือการขอใบรับรองแพทย์ โดยแพทย์ได้รับรองสถานะของเราเพื่อออกใบรับรองสำหรับสมัครเรียนขับรถยนต์เรียบร้อย ซึ่งแปลว่าปลอดภัยสามารถเข้าเรียนได้ ไม่เข้าข่ายโรคเรื้อน วัณโรค โรคเท้าช้าง หรือทุพพลภาพ แต่โรงเรียนกลับปฏิเสธกะทันหัน ทั้งที่เราปฎิบัติตามขั้นตอนทุกอย่าง”

“สิ่งที่อยากจะบอกและยอมเปิดเผยสถานะตัวเองในที่สาธารณะ ไม่ใช่อยากได้ความสงสารเห็นใจ แต่อยากให้รู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่เข้าใจเรื่อง HIV/AIDS และยังมี stigma อีกเยอะจริง ๆ ที่ไม่ถูกพูดถึงอย่างจริงจัง สิ่งที่แย่กว่าตัวโรคและไวรัสคือความไม่เข้าใจที่สังคมมีต่อพวกเรา เราไม่ใช่ตัวประหลาด เราได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี ครอบครัวรับรู้ เพื่อนสนิทรับรู้ พี่ที่ทำงานรับรู้ และเรายังใช้ชีวิตตามปกติได้”

นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์กลายเป็นกระแสไวรัลในทวิตเตอร์ที่มีผู้คนรีทวิตกว่า 63,200 ครั้ง แถมชาวทวิตยังแห่ให้กำลังใจเจ้าของโพสต์กันอย่างล้นหลาม บางคนกล่าวถึงโรงเรียนสอนขับรถยนต์แห่งนี้อาจไร้ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการติดเชื้อ HIV ที่สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมดังคนทั่วไปได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าของโพส์ได้ให้สัมภาษณ์กับทางทีมข่าวสดว่า เบื้องต้นทางโรงเรียนได้โทรมาขอโทษและขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะแล้ว

ทางทีมข่าวสด ขอเสนอเกร็ดความรู้การติดเชื้อ HIV เล็กน้อย โดย HIV เป็นเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสเลือด น้ำเหลือง น้ำอสุจิ น้ำในช่องคลอด ส่วนน้ำลาย เสมหะ และน้ำนมมีปริมาณเชื้อ HIV น้อย สำหรับเหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระแทบไม่พบเลย นอกจากนี้ ยังติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ การติดต่อจากแม่สู่ลูก และการรับโลหิตบริจาคที่มีเชื้อ HIV ปนเปื้อน

ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย รายงาน Undetectable = Untransmissable (U = U) ไม่เจอเท่ากับไม่แพร่ คือปรากฏการณ์ที่ผู้ที่อยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีกินยาต้านไวรัสและกินยาต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอและตรงเวลาเพื่อการรักษาจนระดับของไวรัสต่ำกว่าระดับที่ตรวจพบ นอกจากจะแข็งแรง และมีอายุยืนยาวเหมือนกับคนอื่นทั่วไปแล้ว ผู้ที่อยู่ในภาวะดังกล่าวยังไม่แพร่กระจายเชื้อเอชไอวีให้คนอื่น ดังนั้น การกีดกันผู้ติดเชื้อในสังคมควรหมดไปได้แล้ว

ขอบคุณที่มาจาก Twitter Thaiaidssociety คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล สมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทย