พิษณุโลก ชาวสวนน้ำตาตกใน ราคามะม่วงร่วง เหลือโลละ 10 บาท ส่งขายไม่คุ้มต้นทุน กองอยู่กลางบ้าน 4 ตัน ไม่มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องหันมาเหลียวแล
2 พ.ค. 66 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง บ้านหนองปรือ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ขณะนี้มะม่วงหลายร้อยตัน กำลังจะสุกพร้อมกัน แต่หาคนรับซื้อไม่ได้ ราคาคัดเกรดร่วงเหลือกิโลกรัมละ 10 บาท ไม่มีคนรับซื้อ ล้งเข้ามาดูต่อรองเหลือ 8 บาท 5 บาท 2 บาท ต่อกิโลกรัม เท่านั้น แต่ไม่ได้รับซื้อทั้งหมด
พ่อค้าแม่ค้า ถึงกับปาดน้ำตา เพราะต้นทุนแพงทุกอย่าง แค่ค่าถุงห่อมะม่วงใบละ 1.35 บาทแล้ว ไหนจะต้นทุนราคายา ราคาปุ๋ย ค่าแรงคนงานดูแล ทั้งห่อทั้งเก็บเกี่ยว ต้องจ้างคนงานทำความสะอาดคัดไซส์คนละ 250-300 บาท ต่อวันแล้ว อย่ากให้หน่วยงานระดับจังหวัดหันมาเหลียวแลกันบ้าง กลางเดือนพฤษภาคมนี้ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองอีกหลายร้อยตันจะต้องเก็บเกี่ยว หากปล่อยไว้จะร่วงหล่นเสียหายทั้งหมด
นางสาวสรณ์สิริ วงศ์วนารัตน์ อายุ 46 ปี เจ้าของสวนลุงชอบ ตั้งอยู่เลขที่ 121/1 ม.1 ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ปีนี้กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงบ้านหนองปรือ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลายร้อยไร่ ได้รับกระทบปัญหาราคามะม่วงน้ำดอกไม้สีทองหน้าสวนราคาตกขายไม่ออก ทำให้พ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อไม่ได้
ขณะนี้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ของ ต.บ้านกลาง มีอีกหลายร้อยตันที่พร้อมจะเก็บเกี่ยว มะม่วงโชคอนันต์ เป็นมะม่วงทานดิบ หรือมะม่วงที่นิยมน้ำไปดองแช่อิ่มขาย ไม่มีคนรับซื้อขนาด โพสต์ขายทางออนไลน์ ในราคากิโลกรัมละ 1 บาท ตอนนี้เก็บเกี่ยวมากองไว้กลางบ้าน 4 ตัน แต่ก็ยังขายไม่ออก
น้ำดอกไม้สีทองราคาร่วงสุดๆ ในรอบหลายๆ ปี ตั้งราคาขายยอมขาดทุน กิโลกรัมละ 10 บาทหน้าสวน แต่ยังหาพ่อค้าแม่ค้ามาซื้อไม่ได้ ส่วนใหญ่หลายๆ เจ้าที่ติดต่อมาบอกว่า สู้ราคาไม่ไหว ต่อรองเหลือคัดเกรดพรีเมี่ยมลูกสวย ซื้อในราคาเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท ถ้าเกรดลูกลายเขาสู้แค่ราคากิโลกรัมละ 2-3 บาท เท่านั้น
ถ้าขายราคาขาดทุน เพราะมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง มีต้นทุนในการดูแลค่อนข้างสูง เฉพาะแค่ค่าถุงห่อลูกมะม่วง 1 ใบต่อ 1 ลูก ต้นทุนปาไป 1.35 บาทแล้ว นอกจากนั้นจะค่าปุ๋ย ค่ายา ปีนี้ราคาสูงมาก ค่าแรงคนงานตั้งแต่เริ่มให้ปุ๋ย ให้ยา ห่อลูกมะม่วง ยันเก็บเกี่ยว แกะห่อ ไปจนถึงทำความสะอาดและคัดเกรด ค่าแรงคนงานวันละ 250-300 บาทต่อคนแล้ว ถ้าขายราคา 2 บาท 3 บาท หรือ 5 บาท ไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ
ยิ่งตอนนี้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองกำลังสุกพร้อมกันอีกหลายตัน ไม่น่าจะเกินกลางเดือน พฤษภาคมนี้ พยายามโพสต์ขายในโลกโซเชียล แม้ยอมตัดราคาเหลือกิโลกรัมละ 10 บาท แต่ก็ยังหาคนซื้อไม่ได้ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าเก่าบอกว่าหาที่ขายไม่ได้มะม่วงล้นตลาดตอนนี้เครียดกันมากเพราะเส้นตายไม่เกินกลางเดือน พ.ค.นี้ ถ้าไม่เก็บเกี่ยว ผลมะม่วงก็จะร่วงหมดเพราะแก่เต็มที่แล้ว
ด้าน นางอรวรรณ เฟื่องแก้ว อายุ 65 ปี มีสวนใกล้กัน วันนี้ต้องยอมตัดใจขายมะม่วง 3 ตัน ให้กับล้งที่มารับซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง เพื่อส่งออกไปประเทศลาว ในราคาคัดเกรดพรีเมี่ยมกิโลกรัมละ 8 บาท ตกเกรดไซส์เล็ก หรือลูกลาย ในราคา กิโลกรัมละ 2-3 บาท
ขาดทุน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะมะม่วงมันสุกทุกวันเก็บไว้ไม่ได้ ถ้าไม่ขายก็ทิ้งอย่างเดียว เพราะต่อให้นำไปแปรรูปก็ไม่ทันสุกหมดแล้ว เมื่อก่อนเคยขายได้ในราคา 30-45 บาท แต่ตั้งแต่ลุงตู่ขึ้นมาเป็นนายกฯ ราคามะม่วงก็ร่วงมาตลอดเลย อยากได้นายกคนใหม่ที่หันมาใส่ใจเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงบ้าง ไม่ใช่ช่วยเหลือแต่ยางพารา
กลุ่มยางพาราประท้วงหน่อยของเขาก็ไม่เสียไม่หาย มันยังพอเก็บไว้ได้ แต่มะม่วงสุกแล้วขายไม่ทันมันก็เสียหาย อยากจะไปประท้วงกับเขาก็ทำไม่เป็นได้แค่นั่งมองตาปริบๆ เปรียบมะม่วงเหมือนกันเป็นลูกเมียน้อย ยางพาราเขาเป็นลูกเมียหลวง อยากให้ทางจังหวัด ทางอำเภอ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาเหลียวแลช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วง ต.บ้านกลาง อ.วังทอง บ้าง ว่าจะทำยังไงที่พอจะช่วยเหลือพวกเราได้บ้าง
นางอรวรรณ กล่าวอีกว่า พวกเราผู้ปลูกมะม่วงก็ไม่ใช่ว่าไม่พยายามหาทางออก เข้าใจว่าคนปลูกมะม่วงเริ่มเยอะขึ้น ทำให้พอถึงฤดูมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองล้นตลาด ราคาก็เลยร่วง ทางเราพยายามดูแลบำรุงมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองทุกอย่าง อัดยา อัดปุ๋ยดูแลอย่างดี เพื่อให้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองให้ผลผลิตนอกฤดู เพราะราคาขายจะได้อยู่ถึงกิโลกรัมละ 35-45 บาท
แต่ปีนี้พอเราดูแล ทะนุถนอมมะม่วงอย่างดี เพื่อที่จะเริ่มให้ผลผลิตช่วงเดือน พฤศจิกายน ธันวาคม ต่อเนื่องเดือนมกราคม สภาพอากาศแปรปรวน เกิดฝนตก อากาศร้อน ทำให้ช่อมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่ติดช่อ เตรียมจะออกผลนอกฤดู ส่งผลเสียหายหลายร้อยไร่ เพราะฝนทำให้ช่อมะม่วงร่วงหล่นทั้งหมด เราทำอะไรไม่ได้ต้องปล่อยให้มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองติดผลตามฤดูกาล พร้อมๆ กับที่อื่นที่ให้ผลผลิตช่วงนี้ จึงทำให้มะม่วงล้นตลาด ราคาร่วงแบบนี้