ชาวบ้านเกาะแรตรับไม่ได้ นายทุนนอกพื้นที่รุกป่า อุตส่าห์อนุรักษ์มากว่า 100 ปี
วันที่ 17 ส.ค.65 เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ สฎ.1 (ดอนสัก) สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และชาวบ้าน นำป้ายตรวจยึดพื้นที่คดีบุกรุกพื้นที่ป่า มาติดบริเวณภูเขาเกาะแรต ชุมชนท่องเที่ยวบ้านเกาะแรต หมู่ 3 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี หลังพบมีการก่อสร้างสะพานปูนกว้าง 1 เมตร ยาว 10 เมตร บุกรุกในพื้นที่ป่า 2484
นายสุรสิทธิ์ พงษ์พานิช หน.หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ สฎ.1 (ดอนสัก) สังกัดสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า ตรงจุดนี้เคยตรวจยึดมาแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อปี 2563 เนื่องจากพบการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ มีการแผ่วถางป่าเนื้อที่ 3 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด พร้อมส่งดำเนินคดีที่ สภ.ดอนสัก และติดป้ายตรวจยึดมาแล้วหนึ่งครั้ง จนสภาพป่าที่บุกรุกไปกลับคืนธรรมชาติมาแล้วร้อยละ 70-90 แต่ปรากฎว่าผ่านไป 2 ปี มีการแอบทำสะพานปูนในจุดเดิมอีกจึงต้องเข้ามาตรวจยึดและส่งดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ดอนสัก อีกครั้ง เพื่อปกป้องป่าผืนน้อยที่ยังทำให้เกาะแรตมีสีเขียวสร้างธรรมชาติให้ชาวบ้าน
นายเรืองเกียรติ พงศ์พิชิตชัย อายุ 40 ปี ชาวบ้านที่เกิดและโตที่เกาะแรต เล่าว่า ชาวบ้านเข้ามาอยู่เกาะแรตมานานกว่า 100 ปี โดยจะสร้างที่อยู่ในทะเลริมภูเขา และมีมติชุมชนไม่รุกล้ำพื้นที่ป่าบนภูเขา ก่อนสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ป่าผืนนี้ได้ช่วยซับน้ำในช่วงฤดูมรสุม ถ้าไม่มีป่าไม้ ชาวบ้านที่อยู่รอบเกาะก็คงลำบาก อีกทั้งถ้าไม่มีป่าสภาพอากาศคงจะร้อนระอุ จึงต้องปกป้องไว้ วันนี้มีคนนอกพื้นที่ มาบุกรุกเพื่อทำประโยชน์ให้กับตัวเอง จึงรับไม่ได้
สำหรับเกาะแรต เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนสำคัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานีปัจจุบันเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วไทย เดินทางมาพักผ่อนที่โฮมสเตย์รอบเกาะที่มีอยู่ 9 แห่ง เพื่อมารับประทานอาหารทะเลสดๆ นั่งเรือออกไปดูโลมาสีชมพู และซื้ออาหารทะเลแปรรูปกลับบ้าน
ปัจจุบันมีชาวบ้านประมาณ 104 ครัวเรือน ประกอบอาชีพทำการประมง และการท่องเที่ยวชุมชน สร้างที่อยู่อาศัยรอบเกาะ ล้อมรอบพื้นที่ป่าประมาณเพียง 32 ไร่ ป่าผืนน้อยที่ชาวบ้านต้องการให้เป็นพื้นที่สีเขียวแห่งเดียวของเกาะ สร้างธรรมชาติให้กับเกาะแห่งนี้ ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และป่าไม้ จะได้ช่วยกันเร่งกันสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เบื้องต้นพอจะรู้ตัวผู้บุกรุกแล้ว