ชาวบ้านสุดทน แฉซ้ำนิสัยพ่อเลี้ยง ย่ำยี 2 ด.ช. ผวาหนัก ได้ยินเสียงเรียกต้องไปซ่อนตัว เผยสุดสงสาร วอนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ ให้เด็กมีชีวิตดีขึ้น

จากกรณีพลเมืองดีแจ้งมูลนิธิปวีณาฯ เด็กชาย 2 พี่น้อง ถูกพ่อเลี้ยงย่ำยีขืนใจ เมื่อขอให้แม่ช่วย ก็ถูกพ่อเลี้ยงทุบตี เด็กทั้งสองผวาหนักออกเร่ร่อนเพราะไม่กล้าอยู่บ้านเวลาที่แม่ไม่อยู่ กลัวถูกพ่อเลี้ยงกระทำซ้ำ มูลนิธิปวีณาฯ ประสาน ผกก.สภ.ดำเนินสะดวก และ พม.ราชบุรี เข้าช่วยเหลือคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กทันที ตร.จับกุมพ่อเลี้ยงส่งดำเนินคดี

คืบหน้า วันที่ 24 เม.ย. 66 ที่บ้านพักของครอบครัวดังกล่าว ก่อนจะพบกับชาวบ้านในระแวกนั้น หนึ่งในนั้นคือ น.ส.เอ (นามสมมติ) พลเมืองดี ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปมูลนิธิปวีณาฯ

น.ส.เอ พลเมืองดี เปิดเผยว่า ช่วงแรกที่เด็กทั้ง 2 ได้เล่าเรื่องที่ถูกพ่อเลี้ยงกระทำชำเราให้ฟัง แต่ตนยังไม่ปักใจเชื่อ กระทั่งได้ทราบจากชาวบ้านว่าเด็กได้มาพูดเล่าเรื่องราวในลักษณะเดียวกันให้ฟัง ประกอบกับตนเริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมของเด็กที่เปลี่ยนไป จึงบันทึกคลิปสอบถามเด็กทั้ง 2 เพื่อเป็นหลักฐาน ก่อนส่งเรื่องร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาฯ

สำหรับพ่อเลี้ยงของเด็ก มีอาชีพรับจ้าง แต่เนื่องจากเป็นคนอารมณ์รุนแรง และชอบดื่มเหล้าทั้งวัน จึงมักถูกเลิกจ้าง ในส่วนของแม่เด็กทำงานรับจ้างอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จึงไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก ๆ โดยก่อนหน้าที่จะถูกพ่อเลี้ยงกระทำชำเรา เด็ก ๆ ก็ซุกซนและร่าเริงเป็นปกติ แต่ภายหลังพฤติกรรมเริ่มก้าวร้าวมากขึ้น

ด้าน น.ส.บี เพื่อนบ้าน เปิดเผยว่า หลังจากที่พ่อแท้ ๆ เสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน จากนั้นแม่เด็กก็ได้แต่งงานใหม่ ชีวิตของเด็ก ๆ ก็เปลี่ยนไป ในแต่ละวันเด็ก ๆ จะใช้ชีวิตอยู่ตามใต้อาคารละแวกบ้าน ตั้งแต่ช่วง 6 โมงเช้าไปจนถึงมืดค่ำ บางครั้งชาวบ้านสงสารก็จะให้ขนมและข้าว รวมไปถึงให้เงินบ้างเป็นบางครั้ง เมื่อเวลาที่พ่อเลี้ยงเรียกหา เด็ก ๆ ก็จะหนีและแอบซ่อนตัว บ่อยครั้งที่ชาวบ้านเห็นร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ตนและชาวบ้านอยากให้หน่วยงานได้ช่วยดูแลเด็กทั้ง 2 คน ให้ได้มีชีวิตใหม่ที่ดี ไม่อยากให้กลับไปอยู่ในความดูแลของแม่และพ่อเลี้ยง เพราะเกรงว่าจะถูกกระทำแบบเดิมอีกหลังจากนี้ ตนและคนในชุมชนไม่ต้องการให้พ่อเลี้ยงและแม่เด็กกลับมาใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่อีก เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัยของคนในชุมชน