อุกอาจ ก่อเหตุกลางวันแสกๆ ชาวนาช้ำ สาปแช่งโจร บุกขโมยข้าวเปลือก 15 กระสอบ ขนเต็มท้ายกระบะ หนีลอยนวล
วันที่ 24 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าว จ.เพชรบูรณ์ รายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความเตือนภัย “ลักข้าวเปลือก” แจ้งเหตุลักทรัพย์ข้าวเปลือก จำนวน 15 ถุง เหตุเกิดที่ ม.9 ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 9 พ.ค.66 เวลาประมาณ 10.00 น. คนร้ายไม่ทราบเป็นใคร
ยานพาหนะที่ใช้เป็นรถกระบะแค็บ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มีตำหนิบุบทางด้านหน้าซ้าย ขับขี่ไปทางชนแดน (ลักษณะตามภาพวงจรปิด) หากท่านรู้จักหรือพบเห็นให้แจ้งเบาะแสได้ที่ สภ.วังโป่ง โทร 0-5692-3695 โดยในคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดของ อบต.ซับเปิบ สามารถจับภาพนาทีคนร้ายใช้ยานพาหนะ เป็นรถยนต์กระบะ ด้านหลังใส่ถุงปุ๋ยบรรทุกข้าวเปลือกเต็มคัน ขับไปตามถนนสายวังโป่ง-ซับเปิบ
นายคณู และนางสมพงษ์ ลีเจ้ยวะระ สองสามีภรรยา อาศัยในพื้นที่บ้านคลองน้ำคัน หมู่ 9 ต.ซับเปิบ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ พาผู้สื่อข่าวไปดูยุ้งเก็บข้าวเปลือกที่อยู่ข้างบ้าน นางสมพงษ์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาหลังเสร็จสิ้นการทำนาจะนำข้าวเปลือก ทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียวใส่ถุงปุ๋ยมาตั้งเรียงกันไว้ในยุ้ง เพื่อเก็บไว้กินและทำพันธุ์รอบต่อไป โดยมีเพียงหลังคาไว้กันแดดกันฝน ด้านข้างปล่อยโล่ง ซึ่งเก็บไว้อย่างนี้มานานหลายปีแล้ว
นางสมพงษ์ กล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุ ตนกับสามีออกไปบ้านน้องสาว อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะนั่งเล่นอยู่ใต้ถุนบ้าน สังเกตเห็นรถยนต์กระบะสีขาวบรรทุกกระสอบปุ๋ยใส่ข้าวไว้ที่ท้ายกระบะ ซึ่งคล้ายกับถุงปุ๋ยของตนที่ใส่ข้าวไว้ แต่คิดว่าถุงปุ๋ยคงจะเหมือนกัน จึงไม่ได้เฉลียวใจนางสมพงษ์ กล่าวอีกว่า กระทั่งประมาณ 4 โมงเย็นจึงกลับมาที่บ้าน และเดินไปเอาหมวกในยุ้งข้าวก็ต้องรู้สึกแปลกใจทันที เมื่อพบว่ากระสอบข้าวเปลือกบางส่วนหายไป จึงพากันตรวจสอบ พบว่าหายไปทั้งหมด 15 ถุง แยกเป็นข้าวเจ้า 4 ถุง และข้าวเหนียว 11 ถุง รวมมูลค่าความเสียหายนับหมื่นบาท
นางสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนจึงรีบไปแจ้งกำนัน และพากันไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ อบต.ซับเปิบ จนพบรถต้องสงสัยเป็นรถกระบะคันเดียวกับที่เห็นตอนอยู่บ้านน้องสาว ขับผ่านถนนสาย วังโป่ง-ซับเปิบ มุ่งหน้าไปทางชนแดน
นางสมพงษ์ กล่าวอีกว่า รู้สึกเสียใจมาก เพราะข้าวเปลือกที่หายไป ตั้งใจเก็บไว้กินและนำไปทำพันธุ์ข้าวปลูก กว่าจะทำนาได้ผลผลิตก็ลำบากมากพอแล้ว ยังมาถูกโจรขโมยไปอีก แถมคนร้ายยังลงมืออุกอาจ กลางวันแสกๆ โดยไม่เกรงกลัว มีการเปิดรั้วไม้ไผ่ นำรถยนต์กระบะเข้ามาจอดขนข้าวออกไป แล้วยังปิดรั้วไว้ให้อีก
“ครอบครัวรู้สึกเจ็บช้ำมาก ถ้าไม่มีกินก็มาขอกินกันดีๆ ก็ได้ มาก่อเหตุขโมยแบบนี้ ขอสาปแช่งอย่าให้มีกิน หากินไม่ขึ้นอีกเลย” นางสมพงษ์ กล่าว