ชาวตลิ่งชันโอดอาชญากรรมพุ่งสูง พระยังโดนปล้น วอนพท.ผลักดันติดวงจรปิด เพิ่มไฟส่องสว่างทั่วกรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. พรรคเพื่อไทย (พท.) นำโดย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม. นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผอ.การเลือกตั้ง ส.ก. นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ส.ก. น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรคและกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยนายเอนก ตุ้มน้อย ผู้สมัคร ส.ก.เขตตลิ่งชัน เบอร์ 6 ร่วมกันลงพื้นที่ตลาดน้ำบางสะพาน เพื่อรับฟังปัญหาจากพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในพื้นที่ และแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูง แต่รายได้และค่าแรงยังคงตกต่ำ
ซึ่งพรรคพท.ได้นำเสนอแนวทาง “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระจายความมั่งคั่งให้แก่คนกรุงเทพฯ อย่างถ้วนหน้า” เพื่อแก้ปัญหา ด้วย 5 นโยบายหลัก คือ กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาทต่อปี 50 เขต 50 โรงพยาบาล 30 บาทถึงที่หมาย 437 สถานศึกษาพัฒนาสร้างรายได้ และ 50 เขต 50 ซอฟต์เพาเวอร์ เพื่อนำไปสู่การคืนความมั่นคั่งให้คนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนสนใจปัญหาเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ตัวแทนชุมชนตลาดน้ำวัดสะพาน กล่าวถึงปัญหาชีวิตความปลอดภัยในชุมชนว่า ทุกวันนี้เศรษฐกิจตกต่ำ ก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมในชุมชนเพิ่มมากขึ้น จนล่าสุด 2 วันก่อนมีพระสงฆ์เดินกลับเข้าวัด ก็ยังถูกคนร้ายปล้นเงินถึงหน้าวัด เมื่อไปสถานีตำรวจและต้องหาหลักฐาน ปรากฏว่า กทม.ก็ไม่มีกล้องวงจรปิด ประชาชนก็เลยไม่รู้จะไปหลักฐานจากที่ไหน จึงอยากสอบถามถึงนโยบายด้านความปลอดภัยของเมืองกรุงเทพฯ
นายดนุพร กล่าวว่า จุดแข็งของพรรคพท.คือนโยบาย ทุกข้อที่เสนอเราทำได้จริง แม้เราจะไม่มีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่เรามีนโยบายที่แข็งแรงปฏิบัติได้จริง ไม่ว่าจะมีผู้ว่าฯ กทม.ชื่ออะไร แต่หากเขาเห็นนโยบายเราก็ต้องช่วยกันผลักดันนโยบายพรรคพท.ให้เป็นผลสำเร็จ เพราะนโยบายเรารับฟังจากพี่น้องประชาชน อย่างในชุมชนตลาดน้ำวัดสะพาน พี่น้องเราเล่าว่ามีปัญหาอาชญากรรม 2 วันก่อนพระยังโดนโจรแต่จับโจรไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานคือภาพจากกล้องซีซีทีวี ไม่มีภาพก็ยังจับโจรไม่ได้ ทั้งนี้ พรรคพท.ผลักดันนโยบายลดอัตราการเกิดอาชญากรรม เพิ่มความปลอดภัย จากระบบกล้องซีซีทีวีติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างในทุกพื้นที่ มีการบันทึกเหตุการณ์ด้วยระบบซีซีทีวี พัฒนาเชื่อมโยงกับแอพพลิเคชั่นผ่านมือถือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเป็นหลักฐานในการป้องปรามและดำเนินคดีอาชญากรรม โดยร่วมมือกับชุมชนอย่างใกล้ชิดเมื่อเราป้องกันปัญหาอาชญากรรมได้ เราก็จะช่วยลดปัญหายาเสพติดในชุมชนได้ไปพร้อมกัน
นายเอนก กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ ตนมั่นใจในศักยภาพของพี่น้องประชาชน ทรัพยากร และความเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของชาวตลิ่งชัน ว่าสามารถร่วมกันพัฒนาสาธารณูปโภค การท่องเที่ยว ให้โอกาสเลือกตนเป็น ส.ก.มาร่วมพัฒนาตลิ่งชันไปด้วยกัน