เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 9 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.ศราวุธ พงส.สภ.บ้านคลองสวน จังหวัดสมุทรปราการ ว่ามีเหตุชายคลุ้มคลั่งชักปืนยิงถล่มบ้านเพื่อนบ้านจนได้รับความเสียหาย คนในบ้านจะวิ่งหลบหนีตายไม่คิดชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 11.00 น.ที่ผ่านมา ซึ่งที่เกิดเหคุอยู่ในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งภายใน ซอยประชาอุทิศ 90 หมู่ที่ 2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปรากา
หลังรับแจ้งทาง พ.ต.ท.นันทพล รอง.ผกก.ป้องกันและปราบปราม สภ.บ้านคลองสวน จึงนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สายตรวจและจราจร รวมกว่า 20 นาย ปิดล้อมพื้นที่ โดยที่เกิดเหตุอยู่ในแยกซอยที่ 5 ของหมู่บ้าน บริเวณบ้านเลขที่ 567/76 พบชายวัยรุ่น 1 ราย สวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน สวมกางเกงขาสั้นลายดอกไม้สีน้ำเงินสลับขาว สะพายกระเป๋าผ้าสีดำ ยืนตะโกนเอะอะโวยวายอยู่หน้าบ้านทราชื่อภายหลัง นายจีรพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 135 ซ.ประชาอุทิศ 10 แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กทม.
เจ้าหน้าที่พบปืนไม่ทราบขนาดพกอยู่ที่เอว ก่อนที่จะพูดคุยเกลี้ยกล่อมกันอยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จนผู้ก่อเหตุยอมเดินออกมาจากตัวบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้จังหวะที่ผู้ก่อเหตุเผลอวิ่งเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ พร้อมยึดปืนขนาด 9 มม. สีดำ จำนวน 1 กระบอก ตรวจสอบภายในแม็กกาซีพบลูกกระสุนปืนจำนวน 5 นัดที่ยังไม่ได้ใช้บรรจุอยู่ จึงรีบเคลียร์อาวุธปืน และตรวจสอบภายในกระเป๋าสะพายพบอาวุธมีดยาวประมาณ 30 ซม.ซุกซ่อนอยู่ก่อนควบคุมตัวไปตรวจค้นภายในบ้านบริเวณห้องนอนชั้นที่ 2 ซึ่งเป็นห้องของผู้ก่อเหตุพบอุปกรณ์การเสพ และถุงพลาสติกใสจำนวนมากจึงยึดไว้เป็นของกลางสอบสวนที่สถานีตำรวจ
โดยในที่เกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบบาดเจ็บจำนวน 1 นาย คือ พ.ต.ท.นันทพล รอง.ผกก.ป้องกันและปราบปราม มีแผลแตก และถลอกบริเวณขมับซ้ายเล็กน้อยเนื่องจากกระแทกกับพื้นในขณะที่บุกชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ
จากการตรวจสอบบ้านฝั่งตรงข้ามเลขที่ 567/79 บริเวณหน้าบ้านพบรอยกระสุนปืนพุ่งเจาะกำแพงบ้าน ประตูบ้าน กระจกหน้าต่างแต่เป็นรูโหว่นับได้กว่า 10 รู มีบางจุดทะลุเข้าไปยังหลังบ้านเข้าห้องครัวโชคดีคนที่อยู่ในบ้านไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด สอบถาม นายมานิตย์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97/3 หมู่ที่ 9 ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เล่าด้วยสีหน้าที่ยังตกใจอยู่ว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของ นายมนัส อายุ 35 ปี พี่ชายตน ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมภรรยาได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านพักภายในซอยสุขสวัสดิ์ 76 เพื่อมาติดต่อชำระภาษีทะเบียนรถที่สำนักงานขนส่งภายในซอยประชาสามัคคี
- ผอ.อาชีวะดังเสียชีวิต หลังพาสาวเข้าโรงแรม คาดกินไวอากร้า ก่อนช็อกดับ
- แก๊งขาโจ๋ ขี่รถจักรยานยนต์ ยกพวกตีกัน โชว์กร่าง ไม่แคร์สายตาใคร
- ปังมาก! ยอดเงินบริจาค ‘พรรคประชาชน’ ทะลุ 5 ล้าน ภายใน 5 ชม.
หลังจากเสร็จธุระได้ขี่รถมาบ้านพี่ชายที่บ้านหลังเกิดเหตุเพื่อจะมานั่งเล่นกับหลานสาววัย 2 ขวบพร้อมเยี่ยมแม่กับพี่ชายและจะชักชวนกันไปเที่ยวไหว้พระตามวัดใกล้บ้าน หลังจากที่นั่งคุยกันอยู่สักครู่ใหญ่ตนได้เดินออกมาที่รถจักรยานยนต์ที่อยู่ในบ้านเพื่อจะนำเอกสารป้ายภาษีมาใส่กรอบติดกับรถโดยนั่งหันหลังออกนอกตัวบ้านไม่ถึง 3 นาทีตนได้ยินเสียงปังขึ้นมา 1 ครั้งคิดว่าเป็นใครจุดประทัดจึงหันหลังไปดูพบว่ามีชายที่อยู่บ้านตรงข้ามกำลังเล็งจ่อปืนมาทางตนหลังจากนั้นได้ยินเสียงปืนอีกหลายนัดเข้ามาในบ้าน ตนจึงรีบก้มคลานหนีเข้าไปหลบในบ้านพร้อมร้องบอกคนในบ้านให้หาที่กำบัง และรีบโทรศัพท์เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งที่ผ่านมาครอบครัวตนไม่เคยมีปัญหาและไม่รู้จักกับบ้านหลังที่ก่อเหตุเลยเพราะตนไปซื้อบ้านอยู่กับภรรยาข้างนอก
ในส่วน นางสาวฟอง อายุ 31 ปี ภรรยาของ นายมานิตย์ เล่าว่าในขณะที่ตนกำลังเล่นอยู่กับหลานสาววัย 2 ขวบและมีแม่สามีนั่งอยู่ได้ยินเสียงดังปังคล้ายลูกโป่งแตกเลยไม่ได้เอะใจก่อนที่จะมีเสียงตามมาติดๆอีกหลายครั้งและได้ยินแฟนตะโกนให้รีบหาที่กำบังจึงรีบอุ้มหลาน และดึงแขนแม่แฟนรีบไปหลบหน้าห้องน้ำโชคดีที่คมกระสุนไม่โดนใครไม่เช่นนั้นอาจเกิดเรื่องสลดได้
จากการสอบถาม นายจีรพงษ์ ได้ให้การวกไปวนมา อ้างว่าตนเองมีปัญหากับบ้านคู่กรณี เนื่องจากคำพูดคำจาของเขาพูดจาชวนทะเลาะ พูดจากระทบตนเอง ตนเองเคยเห็นแต่ไม่รู้จัก ปืนที่ใช้ก่อเหตุตนเองได้ไปยืมเขามา ซึ่งเกิดจากความระแวงกลัวเขาจะมาหาเรื่อง ตนเองคิดว่า คู่กรณี และคนส่งแก๊สเมื่อครั้งก่อนน่าจะเป็นพวกเดียวกัน เนื่องจากมาคอยติดตาม และดูความเคลื่อนไหวว่าตนเองกำลังทำอะไร ทำให้ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัย
โดยเขามาก่อความวุ่นวาย ตนจึงตั้งใจที่จะนำปืนมาขู่เขาแต่ไม่ได้ที่จะมา ทำร้ายคู่กรณีให้ตาย ก่อนหน้านี้ ตนเองก็เสียตังค์ ให้กับคู่กรณี ไปฟรี ๆ โดยที่ไม่ได้ทำร้ายอะไรเขา ซึ่งยอมรับว่าไปทำร้ายเขาแต่ไม่โดน ตนเองคิดว่า น่าจะเป็นพวกเดียวกัน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มีคนคอยพูดกรอกหูเรา ว่าเขาจะมาทำร้ายซึ่งตนเองก็คอยสังเกตอยู่ตลอดเวลา และสุดท้ายนี้ยอมรับว่าเล่นยามานิดหน่อย
จาการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ก่อเหตุ ติดสารเสพติดมานานจนมาเกิดเหตุคลุ้มคลั่งระแวงว่าจะมีคนมาทำร้ายและเห็นเพื่อนบ้านนั่งอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามจึงกลัวคิดว่าจะมาทำร้าย ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนชั้นที่ 2 คว้าปืนมายิงถล่มใส่ จากการตรวจสอบประวัตย้อนหลังทราบว่าเมื่อสัปดาห์ก่อนผู้ก่อเหตุยังได้เคยใช้มีดที่พกติดตัวทำร้ายร่างกายคนส่งหมูกระทะที่มาใส่ที่บ้านจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่เคลียร์เรื่องกันจนจบแล้ว และมีหมายจับจากศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.244/58 ลง 3 เม.ย. 58 ในความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองฯ” ซึ่งก่อเหตุในพื้นที่ สน.ราษฎร์บูรณะรวมจำนวน 2 หมาย ส่วนปืนทราบว่าผู้ก่อเหตุได้สั่งซื้อมาทางออนไลน์โดยหลังจากนี้จะตรวจสอบต้นตอตัวผู้จำหน่าย
เจ้าหน้าที่นำตัวไปตรวจสอบหาสารเสพติดที่โรงพยาบาลพบว่าเป็น สีม่วง จึงนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมพร้อมตั้งข้อกล่าวหา พกพาอาวุธปืนในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติด ส่วนในเรื่องทำให้เสียทรัพย์และพยายามฆ่านั้นซึ่งในตอนนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายและคงต้องรอการสอบสวนของพนักงานสอบสวนในการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป