ชายวัย 59 ปี กินกล้วยวันละ 2-3 ลูก หลังอาหารเย็นทุกวัน ผ่านไป 1 ปี เมื่อไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพ ได้พบความจริงที่คาดไม่ถึง
เว็บไซต์ SOHA รายงานว่า คุณลุงเหลียงหาน อายุ 59 ปี จากประเทศจีน ได้ทานกล้วยวันละ 2-3 ลูกทุกคืน เนื่องจากเชื่อว่ากล้วยมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ
ลุงเหลียง เล่าว่า เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว ได้อ่านบทความเกี่ยวกับประโยชน์ของกล้วยต่อสุขภาพหัวใจ ทำให้ลุงเริ่มทานกล้วยวันละ 2-3 ลูก หลังอาหารเย็นทุกวัน หวังว่าจะช่วยเสริมสารอาหารและป้องกันโรคหัวใจ
ลุงเหลียงกินกล้วยทุกวันตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ไม่นานมานี้ ลูกชายได้พาลุงไปตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น
หลังจากตรวจและทำการทดสอบหลายรายการ ลุงเหลียงได้เข้าห้องเพื่อติดตามผลกับคุณหมอ ซึ่งแจ้งว่า “สุขภาพของคุณดีมาก ค่าเลือดและการตรวจร่างกายทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ปกติ”
เมื่อได้ยินผลนี้ ลุงเหลียงรู้สึกดีใจมาก อย่างไรก็ตาม ลุงได้บอกคุณหมอว่า ตอนกลางคืนมักมีอาการแน่นท้องโดยไม่ทราบสาเหตุ และเล่าเพิ่มเติมว่าตลอดปีที่ผ่านมาทานกล้วยวันละ 2-3 ลูกทุกคืน แต่ไม่แน่ใจว่านิสัยนี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่
คำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญ
เกี่ยวกับนิสัยการทานกล้วยทุกวันของลุงเหลียง คุณหมออธิบายว่า “กล้วยเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยโพแทสเซียมและวิตามินบี 6 ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ
คุณหมอ กล่าวว่า โพแทสเซียมในกล้วยช่วยลดปริมาณโซเดียมส่วนเกินในร่างกาย ซึ่งช่วยควบคุมความดันโลหิตและลดภาระให้กับระบบหัวใจ นอกจากนี้ โพแทสเซียมยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยปกป้องสุขภาพหัวใจอีกด้วย
วิตามินบี 6 ในกล้วยก็มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ร่างกายสร้างสารอาหารสำคัญต่อหัวใจ คือ โคเอนไซม์ Q10 ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์หัวใจจากการทำลายของอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอการเสื่อมของหัวใจ
“โพแทสเซียมในกล้วยช่วยปรับความดันโลหิตและลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจได้จริง แต่การทานกล้วยมากเกินไปตอนกลางคืนอาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร กล้วยมีเส้นใยอาหารละลายน้ำและซอร์บิทอล ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตที่มีโครงสร้างคล้ายน้ำตาลและแอลกอฮอล์ หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสีย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีเหมือนเดิม” คุณหมออธิบายเพิ่มเติม
คุณหมอยังแนะนำว่าการทานกล้วยตอนกลางคืนอาจทำให้เกิดอาการแน่นท้อง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพการนอนและอาจส่งผลทางอ้อมต่อสุขภาพ
เพื่อแก้ปัญหานี้ คุณหมอแนะนำให้ลุงเหลียงลดปริมาณกล้วยเหลือวันละ 1 ลูก และควรเปลี่ยนเวลาทานไปเป็นหลังมื้อเช้าหรือมื้อกลางวันแทน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นโดยไม่เพิ่มภาระให้กับระบบย่อยอาหาร
สุดท้าย คุณหมอเน้นว่าลุงเหลียงไม่ควร “ยกย่องเกินจริง” ถึงประโยชน์ของการทานกล้วยเพื่อสุขภาพหัวใจ หากต้องการให้สุขภาพหัวใจและสุขภาพโดยรวมดีขึ้น ลุงควรรักษาการทานอาหารที่หลากหลาย ลดการบริโภคเกลือ น้ำตาล และไขมัน และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ