สยองขวัญกลางดึก ชายวัย 40 ยืนกำเป้าเลือดโชกเลือด หลังจัดหนักมีเซ็กซ์จน จู๋หัก คนป่วยตกในทั้งคลินิก! หมอเตือนพักจู๋บ้าง
การมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำนั้นดีต่อสุขภาพกายและใจ ทั้งยังสามารถหล่อเลี้ยงความสัมพันธ์ระหว่างสามีและภรรยาได้ แต่พึงระวังว่าอะไรที่มากไปมันก็จะส่งผลไม่ดีได้เช่นกัน สำนักข่าวต่างประเทศได้เปิดเผยเรื่องราวของชายวัย 40 ที่มายืนกำเป้าตัวเองพร้อมผ้าก๊อซที่เต็มไปด้วยเลือด อยู่ข้างนอกคลินิกผู้ป่วยนอกสร้างความสยองขวัญให้กับผู้ป่วยคนอื่นๆที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยโดย คุณหมอ ชิว หงเจี๋ย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเอเชีย
เล่าในรายการ “The Doctor Is Hot” โดยในเหตุการณ์นี้ได้มีคู่สามีภรรยาอายุ 40 ปี ซึ่งมาที่คลินิกผู้ป่วยนอกตอนกลางคืน โดยพบว่ามีผ้าก๊อซอยู่มือซ้าย และกางเกงชั้นใน ที่เต็มไปด้วยเลือดไหลออกมาจากร่างกายส่วนล่าง จึงรีบให้ขึ้นไปนอนบนเตียงและตรวจสอบ จึงพบว่ามีการฉีกขาด การบวม และการอักเสบ เกิดขึ้นบริเวณเส้นสองสลึง (frenulum) ที่ยึดระหว่างหัวของอวัยวะกับหนังหุ้มปลายองคชาต
ทาง คุณหมอ ชิว หงเจี๋ย ก็ได้ถามกับหนุ่มรายนี้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งก็ได้คำตอบว่าภรรยานั้นมีความต้องการทางเพศสูงมากทั้งคู่เลยต้องจัดหนักมีเซ็กซ์กันวันละหลายๆรอบ ซึ่งก่อนมาที่นี้เขาได้มีเซ็กซ์กับภรรยาอยู่จากนั้น ก็ได้กลิ่นเลือด และเมื่อก้มลงไปดูก็พบว่า องคชาตของตัวเองหักและมีเลือดไหลออกมา ซึ่งเขาพยายามหยุดเลือดด้วยกระดาษชำระและผ้าก๊อซพร้อมกับใช้มือกดเอาไว้ แต่ทันทีที่เขาปล่อยมือเลือดก็จะไหลไม่หยุด
โดยคุณหมอ ชิว หงเจี๋ย ได้อธิบายว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากการมีเซ็กซ์แบบจัดหนักโดยไม่หยุดพัก ทำให้เส้นสองสลึงที่เดิมที่ก็มีความเปราะบางและเป็นจุดที่มีการไหลเวียนของเลือดสูง หากจุดนั้นได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าจะจากการช่วยตัวเองอย่างหนัก หรือ ร่วมเพศผิดท่า รวมถึงการจัดหนักไม่พัก ก็อาจจะทำให้มีอาการปวด ถลอก เลือดออก หรือหักได้ อย่างไรก็ตามกรณีเลือดออกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องทีจะพบได้บ่อยอาจมีเพียงแค่การอักเสบและอาการปวดเท่านั้น ทั้งนี้หากมีอาการบากเจ็บดังข้างต้น แพทย์ส่วนใหญ่จะแนะนำให้ผ่าตัด ซึ่งระหว่างประเมินกาหารนั้นก็จำเป็นงดการมีเซ็กซ์เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน!!
ขอบคุณข้อมูล health.ettoday.net