ชายพิการ ขายงานฝีมือริมถนน เก็บเงินบริจาคให้นักเรียนมา 15 ปี รู้มูลค่ารวมยิ่งนับถือใจ

Home » ชายพิการ ขายงานฝีมือริมถนน เก็บเงินบริจาคให้นักเรียนมา 15 ปี รู้มูลค่ารวมยิ่งนับถือใจ
ชายพิการ ขายงานฝีมือริมถนน เก็บเงินบริจาคให้นักเรียนมา 15 ปี รู้มูลค่ารวมยิ่งนับถือใจ

ชายพิการผู้ปิดทองหลังพระ เก็บเงินจากการขายของริมถนน บริจาคเงินให้นักเรียนตลอด 15 ปี รวมกว่า 5 ล้านบาท

ชายพิการแซ่ “หู” ได้สร้างความประทับใจให้กับหลายๆ คน หลังจากที่เขาบริจาคเงินให้นักเรียนกว่า 1 ล้านหยวน (ประมาณ 5 ล้านบาท) ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา

กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน (MPS) ได้แชร์เรื่องราวลงในหน้า Weibo แสดงให้เห็นช่วงเวลาที่ เด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์จากความมีน้ำใจของนายหู ถึงกับร้องไห้ออกมาเมื่อเธอได้พบหน้าผู้มีพระคุณเป็นครั้งแรก

นายหูซึ่งเป็นชายพิการ ที่มีรายได้จากการเก็บขวดขาย และขายงานฝีมือตามข้างถนน แต่ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เขากลับนำเงินมาบริจาคให้แก่นักเรียนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงซื้อกระเป๋านักเรียนกว่า 20,000 ใบมอบให้เด็กๆ ด้วย

นายหูยังบอกกับเด็กๆ ที่เขาให้การรับความช่วยเหลือเสมอว่า “ถ้าเด็กๆ เดือดร้อนอะไร ฉันจะคิดหาวิธีที่จะช่วย เมื่อพวกเธอโตขึ้นจงจดจำพ่อแม่ คุณครู ท่านผู้นำ และความรักที่คุณมีต่อประเทศ จำฉันไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”

“ชีวิตของผมลำบากมาก แต่ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นคนอื่นลำบากกว่าผม”

 

จากข้อมูลของกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน นายหูป่วยเป็นโรคโปลิโอตั้งแต่ยังเด็ก เป็นผลต้องใช้หัวเข่าในการเดินเคลื่อนที่ พ่อของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะพยายามไปพบแพทย์ ส่วนแม่ของเขาแต่งงานใหม่หลังจากเป็นม่าย เขาจึงได้รับการเลี้ยงดูโดยปู่ย่าตายาย

“ผมละอายใจมาก ผมไม่ได้น่าทึ่งอย่างที่คุณคิด สิ่งที่ผมทำคือตอบแทนสังคมมาตลอด 15 ปี ไม่หวังว่าจะรวยและมีชื่อเสียง สิ่งเดียวที่ต้องการคือ การทำในสิ่งที่ผมต้องการเพราะไม่อยากเสียใจภายหลัง”

“มีหลายคนขอให้ผมเริ่มไลฟ์สด แต่ผมไม่ต้องการทำแบบนั้น ผมไม่อยากเป็นคนดังทางอินเตอร์เน็ต ทุกคนไม่ได้มีเป็นมันง่ายๆ” เขากล่าวระหว่างการสัมภาษณ์กับ MPS

นายหูย้ำด้วยว่าเขาจะไม่ทำการสตรีมสดใดๆ และจะไม่เปิดรับบริจาค หรือรับสิ่งใดๆ จากคนแปลกหน้า ดังนั้น ขอให้ทุกคนอย่าตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงที่แอบอ้างชื่อของเขา

“พ่อของผมไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว และผมจะไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อไรสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นกับผมบ้าง ผมไม่รู้ว่าจะอดทนได้นานแค่ไหน ผมไม่ต้องการที่จะมีชื่อเสียงทางอินเทอร์เน็ต แค่อยากทำความดีต่อไปอย่างเงียบๆ หวังว่านี่จะเป็นการปลูกเมล็ดพันธุ์แห่งความกตัญญูให้กับเด็กๆ และพวกเขาจะตอบแทนประเทศของเราในอนาคต”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ