ชายฝังศพแฟนสาว เทปูนทับ หน้าระเบียงนาน 16 ปี เจ้าของรู้ตอนรื้อตึก

Home » ชายฝังศพแฟนสาว เทปูนทับ หน้าระเบียงนาน 16 ปี เจ้าของรู้ตอนรื้อตึก

ฆ่าฝังปูนซีเมนต์

ชายเกาหลีใต้ ฆ่าแฟนสาว เทปูนทับอำพรางศพ หน้าระเบียง จนเจ้าของตึกมารื้อพบศพ เพื่อนบ้านตกใจ อยู่มานาน ไม่รู้ว่ามีศพ

เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 เว็บไซต์ The Korea Herald ได้รายงานว่า ตำรวจเกาหลีใต้ได้จับกุมชายวัย 58 ปีในข้อหาฆาตกรรมและอำพรางศพแฟนสาวของเขา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 16 ปีก่อน โดยศพของเธอเพิ่งถูกค้นพบระหว่างการก่อสร้างอาคาร

ในวันที่ 10 ตุลาคม 2551 ผู้ต้องสงสัยได้ฆ่าแฟนสาวของเขาที่อาศัยอยู่ด้วยกันภายในห้องพักของพวกเขาใน เมืองคอเจ จังหวัดคยองซังใต้ ขณะที่ทั้งคู่กำลังมีปากเสียง เขาใช้ของแข็งฟาดศีรษะของเธอจนเสียชีวิต จากนั้นเขาก็ซ่อนศพของเธอไว้ในกระเป๋าเดินทางและนำไปวางไว้ข้างนอกระเบียงกลางแจ้งข้างดาดฟ้าของอาคาร ก่อนจะวางอิฐปิดทับและเทปูนทับเพื่ออำพรางศพ

ผู้ต้องสงสัยยังคงอาศัยอยู่ในห้องพักนั้นอีก 8 ปี ก่อนจะย้ายออกไปในปี 2559 อย่างไรก็ตาม อาชญากรรมนี้เพิ่งได้รับการเปิดเผยในปี 2567 เมื่อเจ้าของอาคารพบกระเป๋าเดินทางที่มีศพอยู่ภายในระหว่างการรื้อถอนจุดดังกล่าวเพื่อป้องกันน้ำรั่ว

ซ่อนศพ
The Korea Herald
  • สาวถูก งูชก คาโรงหนัง ย่านพระราม 2 ค่ารักษาเหยียบหมื่น เจอปัดรับผิดชอบ
  • อึ้งทั้งประเทศ! พี่หนุ่ม เผาทอง ร้านแม่ตั๊ก กลางโหนกระแส จริงหรือเก๊รู้เลย
  • เศร้า! หนุ่ม ตัดสินใจ เชือดจระเข้ ยกฟาร์ม กันหลุดกรง ช่วงน้ำท่วม

ผลการชันสูตรยืนยันว่าผู้ตายคือหญิงที่ถูกแจ้งเป็นบุคคลสูญหายในปี 2554 เนื่องจากเธอแทบไม่ติดต่อกับครอบครัวของเธอเลย จึงไม่มีใครรู้ความเคลื่อนไหวของเธอ เมื่อมีคนไปแจ้งเรื่องบุคคลสูญหายก็เป็นช่วงเวลาหลังจากที่เธอเสียชีวิตไปนาน 3 ปีแล้ว แต่ตอนนั้นตำรวจไม่พบหลักฐานที่น่าสงสัยใดๆ และผู้ต้องสงสัยก็อ้างว่าตัวเองกับผู้ตายแยกทางกันไปแล้ว

หลังจากที่ศพของเธอถูกพบและยืนยันได้ว่าเธอเสียชีวิตจากแผลถูกของแข็งฟาดที่ศีรษะ ตำรวจจึงระบุตัวผู้ต้องสงสัยและตามไปจับกุมตัวเขาที่บ้านพักในเมืองยางซาน จังหวัดคยองซังใต้ ในข้อหาฆาตกรรม

ระหว่างการสอบปากคำ ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพว่าเป็นคนสังหารแฟนสาวของเขาจริง นอกจากข้อหาฆาตกรรมแล้ว เขายังจะถูกดำเนินคดีข้อหาใช้ยาเสพติดด้วย เนื่องจากตอนที่จับกุมนั้นตำรวจพบว่าเขากำลังเสพเมทแอมเฟตามีนอยู่

ห้องที่ผู้ต้องสงสัยเคยเช่าอยู่ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุและซ่อนศพนั้น ไม่มีผู้เช่ารายอื่นเข้าพักในห้องดังกล่าวอีกเลย นับตั้งแต่ผู้ต้องสงสัยย้ายออกไป ทางเจ้าของอาคารจึงใช้พื้นที่นั้นเป็นห้องเก็บของแทน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ