ชายปัสสาวะลำบาก-ท้องผูกรุนแรง หมออึ้งเจอ "มะพร้าว" ในช่องทวาร อุบตอบเหตุผล

Home » ชายปัสสาวะลำบาก-ท้องผูกรุนแรง หมออึ้งเจอ "มะพร้าว" ในช่องทวาร อุบตอบเหตุผล
ชายปัสสาวะลำบาก-ท้องผูกรุนแรง หมออึ้งเจอ "มะพร้าว" ในช่องทวาร อุบตอบเหตุผล

ชายชาวไต้หวัน โร่มา รพ. หลังปัสสาวะลำบากและท้องผูกรุนแรง หมออึ้ง เจอ “ลูกมะพร้าว” ติดในช่องทวาร

สำนักข่าวของไต้หวัน รายงานข่าวเรื่องราวสุดพีกของชายชาวเกาสง วัยประมาณ 50 ปี คนหนึ่ง ซึ่งเข้าได้ไปโรงพยาบาลอี้ต้าเพื่อเข้ารับการรักษาแบบฉุกเฉิน เนื่องจากเขาปัสสาวะไม่ออกและมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง หลังจากการทำ CT scan แพทย์พบว่ามี “ลูกมะพร้าว” ทั้งลูกอยู่ในทวารหนัก ซึ่งบีบท่อปัสสาวะและทำให้ปัสสาวะไม่ออก

รายงานข่าว ระบุว่า ชายรายดังกล่าวมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ปัสสาวะไม่ออก และท้องผูกอย่างรุนแรง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2 วันที่แล้ว โดยไม่มีไข้ คลื่นไส้ หรืออาเจียน

เบื้องต้น แพทย์วินิจฉัยว่าสัญญาณชีพของผู้ป่วยคงที่ และการตรวจช่องท้องพบว่ากระเพาะปัสสาวะบวมเหมือนลูกฟุตบอล ผลการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของแพทย์พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมขนาดใหญ่ในทวารหนัก ซึ่งไปบีบรัดท่อปัสสาวะต่อมลูกหมาก ทำให้ไม่สามารถปัสสาวะได้

ต่อมาแพทย์ยืนยันว่าวัตถุแปลกปลอมคือ “ลูกมะพร้าว” และจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ในที่สุดก็สามารถนำลูกมะพร้าวขนาด 7.5 x 5.7 x 5.5 เซนติเมตร ออกจากทวารหนักมาได้

เฉิน จื่ออี้ ผู้อำนวยการฝ่ายศัลยกรรมทั่วไปของโรงพยาบาล กล่าวว่า ในระยะแรกชายรายนี้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจและสายสวนปัสสาวะ แต่แพทย์ไม่สามารถเอาลูกมะพร้าวออกได้ด้วยการสอดมือเปล่าเข้าไปในทวารหนักของเขา

เมื่อพิจารณาว่าหากมีความล่าช้ามากกว่านี้ กระเพาะปัสสาวะของชายคนนั้นอาจระเบิด และทวารหนักของเขาอาจกลายเป็นเนื้อตายเนื่องจากการกดทับ แพทย์จึงตัดสินใจทำการผ่าตัดเปิดช่องท้องและเอาลูกมะพร้าวออกมาได้สำเร็จ

โรงพยาบาล ระบุว่า เนื่องจากขนาดและตำแหน่งของสิ่งแปลกปลอม กระเพาะปัสสาวะของชายคนนี้จึงขยายออกอย่างผิดปกติ ประมาณ 2,000 ซีซี

อย่างไรก็ตาม ชายรายดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยว่ามะพร้าวเข้าไปในร่างกายของเขาได้อย่างไร

เคสหายากทางการแพทย์นี้ได้รับการตีพิมพ์โดย British Medical Journal BJS (British Journal of Surgery) ทำให้ชาวเน็ตไต้หวันเข้ามาถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์มากมาย หลายคนแสดงความอับอายที่เรื่องดังกล่าวโด่งดังไปทั่วโลก ถึงขั้นถูกตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศ

“พระเจ้า…คุณยัดมันเข้าไปได้ยังไง?” ชาวเน็ตรายหนึ่ง ระบุ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ