เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยเห็นถ้วย หรือชามตราไก่ผ่านหน้าผ่านตาเวลาไปทานก๋วยเตี๋ยว หรือเวลาไปเที่ยวตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีร้านขายของที่ระลึกกันมาบ้างแล้ว และก็กำลังสงสัยว่าทำไม google doodle ในวันที่ 12 ก.ย. ถึงยกย่องว่าเป็นวันเฉลิมฉลองชามตราไก่จากลำปาง วันนี้ ทีมงาน ไบรท์ ทูเดย์ (Bright Today) จะพาทุกคนไปส่องประวัติของชามตราไก่กันค่ะ
ประวัติชามตราไก่
ชามตราไก่ หรือ ชามไก่ เป็นสินค้าขึ้นชื่อจากจังหวัดลำปาง เป็นภาชนะใส่อาหารที่อยู่คู่สังคมไทยมานาน โดยคนจีนแต้จิ๋วในประเทศไทยนำเข้ามา ชามตราไก่นิยมใช้ใส่ข้าวต้ม มีขนาดเหมาะกับการใช้ตะเกียบพุ้ย คนไทยใช้เป็นชามก๋วยเตี๋ยว ร้านขายก๋วยเตี๋ยวจึงนิยมใช้ชามตราไก่
การผลิตถ้วยตราไก่ของจังหวัดลำปาง เริ่มต้นอย่างจริงจัง เมื่อปี พ.ศ. 2503 เมื่อชาวจีน 2 คน คือ นายซิวกิม แซ่กวอก และนายซิมหยู แซ่ฉิน ได้ร่วมกันตั้งโรงงานทำถ้วยตราไก่แบบเมืองจีนขึ้น นับเป็นโรงงานทำถ้วยตราไก่แห่งแรกของลำปาง ตามประวัติกล่าวว่า เมื่อครั้งที่ทั้งสองอยู่เมืองจีนเคยทำงานในโรงถ้วยชาม ซึ่งต้องทำงานทุกขั้นตอนตั้งแต่การล้างดิน ปั้นถ้วย เคลือบ เขียนลายและนำเข้าเตาเผา เมื่อเดินทางเข้ามาอยู่ในประเทศไทยก็ได้ทำงานในโรงงานเครื่องปั้นดินเผาที่จังหวัดเชียงใหม่
ลักษณะของชามไก่ ชามไก่ในยุคแรกเป็นชามทรงแปดเหลี่ยมเกือบกลมปากบาน ข้างชามด้านนอกมีรอยบุ๋มเข้าไปเล็กน้อย 8 รอย รับกับเหลี่ยมของชามและกระชับกับนิ้วมือในแต่ละรอยบุ๋ม ทำให้จับยึดชามได้มั่นคงขึ้น ไม่ลื่นหลุดจากมือได้ง่าย ชามต้องมีความหนาและก้นชามต้องสูง อันเป็น 3 เอกลักษณ์ประจำชามตราไก่
วาดลายบนเคลือบด้วยมือ เป็นรูปไก่สีส้ม ขนคอและลำตัวเป็นสีส้ม ส่วนหางและขาสีดำ ย่างขาหรือวิ่งอยู่บนหญ้าสีเขียว มีดอกโบตั๋นสีชมพูม่วงออกม่วง ใบสีเขียวตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านซ้าย และมีต้นกล้วย 3 ใบสีเขียว ตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านขวาและต้นผักกาด
ชามตราไก่ขนาด 5-6 นิ้ว สำหรับใช้ตามบ้านและร้านข้าวต้ม ส่วนชามตราไก่ขนาด 7-8 นิ้ว เหมาะกับผู้ใช้แรงงานหนักใช้ เพราะต้องรับประทานมาก ชามไก่หรือชามตราไก่เคยเป็นของใช้ประจำครัวคนจีนแทบทุกครัวเรือน แต่ในครัวคนจีนรุ่นใหม่อาจจะไม่ค่อยพบชามไก่หรือชามตราไก่มากนัก
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY