ชัยวุฒิ พลิกโฉมโทร 1212 สู่ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ จับมือตร.เร่งปราบมิจฉาชีพ เผยยอดร้องเรียนออนไลน์แตะ 50,000 เรื่อง กว่า 67% ปัญหาซื้อขายสินค้า
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.2564 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ปรับโฉมบริการโทร 1212 OCC สู่ “ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์” เพื่อยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภค และประชาชนผู้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพและกลโกงทางออนไลน์ ให้เข้าถึงกระบวนการช่วยเหลือเยียวยาได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยขยายขอบเขตการรับเรื่องร้องเรียนไปถึงปัญหาอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ปัญหาฉ้อโกง เว็บไซต์ผิดกฎหมาย และแชร์ลูกโซ่ พร้อมบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ให้มากขึ้น โดยครอบคลุมทั้งขยายการทำงานในการป้องกันและจัดการปัญหาออนไลน์ไปยังภาครัฐ ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ทำให้การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดเป็นไปได้เร็วขึ้น ภาคเอกชนที่เป็นบริษัทด้านแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม กูเกิล และยูทูบ รวมถึงภาคประชาสังคม เช่น สภาองค์กรของผู้บริโภค
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังไตั้งคณะกรรมการป้องกันและจัดการปัญหาและข้อร้องเรียนหรือภัยที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางออนไลน์ ที่บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐและเอกชน เพื่อให้การป้องกัน จัดการ และแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนมีประสิทธิภาพมากที่สุด ตลอดจนขยายช่องทางการรับแจ้งเรื่อง ของศูนย์ผ่านช่องทาง Line และสำนักงานสถิติจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้มีจุดรับเรื่องร้องเรียนเพิ่มขึ้น
ล่าสุดเตรียมจัดตั้งศูนย์ปราบปรามมิจฉาชีพทางออนไลน์ เพิ่มประสิทธิภาพทำงานร่วมกันกับตำรวจ ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรคมนาคม แพลตฟอร์มโซเชียล และ กสทช. มุ่งพันธกิจเร่งรัดติดตามการป้องกันปราบปรามมิจฉาชีพออนไลน์ เร่งรัดติดตามดำเนินคดีผู้กระทำผิด ลดอุปสรรคความล่าช้าในการรวบรวมพยานหลักฐานและแกะรอยเส้นทางการเงินของบัญชีมิจฉาชีพ ตลอดจนหาแนวทางดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุให้รวดเร็วที่สุด
ทั้งนี้ จากตัวเลขสถิติการรับเรื่องร้องเรียนผ่าน 1212 OCC ที่ผ่านมา พบว่าจำนวนเรื่องร้องเรียนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ในปี 2564 ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว 49,996 ครั้ง ปัญหาที่ถูกร้องเรียนเข้ามามากที่สุด คือปัญหาซื้อขายของทางออนไลน์ 67.11% ปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมาย 23.06% และหากลงรายละเอียด พบว่า ส่วนใหญ่เป็นปัญหาสั่งซื้อแล้วไม่ได้รับสินค้า หรือได้รับสินค้าไม่ตรงตามที่สั่งไว้มากถึง 47% สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณา 29% เป็นต้น
“เมื่อคนทั่วโลกหันมาทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ภัยคุกคามทางออนไลน์ ทั้ง การฉ้อโกง หลอกลวง ปัญหาในรูปแบบต่างๆ ก็เพิ่มตามมาด้วย ทำให้ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญในการเข้าไปดูแลคุ้มครองผู้บริโภคกันอย่างเข้มข้นและเอาจริงเอาจังกับการเข้าไปช่วยเหลือเยียวยาผู้บริโภคออนไลน์ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่” นายชัยวุฒิกล่าว