ชัยธวัช ประเมินก้าวไกล 8/10 ลั่นพรรคโดดเด่น ไม่ใช่โดดเดี่ยว โว ‘พิธา’ แคนดิเดตนายกฯ ที่เหมาะสมที่สุด เผยความสัมพันธ์ คณะก้าวหน้า ยันทำงานร่วมกัน
เมื่อวันที่ 1 ม.ค.2566 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงผลงาน 4 ปีที่ผ่านมาของพรรคก้าวไกลว่า ตนให้ 8 เต็ม 10 เราคิดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ส.ส.ตั้งแต่อดีตพรรคอนาคตใหม่ จนถึงพรรคก้าวไกลก็ได้รับความยอมรับว่าเป็นส.ส.ที่มีการทำงานที่ดี ทำงานอย่างจริงจัง สร้างปรากฎการณ์ใหม่ และผลักดันประเด็นใหม่ ซึ่งยกระดับการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร แม้บางเรื่องก็ยังไม่สำเร็จแต่เป็นเวทีให้เราทำงานเชิงความคิดกับสังคมได้ โดยรวมแล้วประชนรับรู้และยอมรับการทำงานของเรา
เมื่อถามว่าโพลหลายสำนักอยากให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี นายชัยธวัช กล่าวว่า ในช่วงหลังปีใหม่ โดยเฉพาะเดือนก.พ.เป็นต้นไป ประชาชนให้ความสำคัญการเมืองมากขึ้น รวมถึงข้อเสนอต่างๆของแต่ละพรรคในเชิงนโยบายและวิสัยทัศน์ของผู้นำ ตนเชื่อมั่นว่าความนิยมของนายพิธา ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนถึงวันเลือกตั้ง
“เรามั่นใจว่าแคนดิเดตนายกฯ ที่มีอยู่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายพิธา เป็นคนที่มีความพร้อม มีความสามารถที่จะบริหารประเทศมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานประสบการณ์ ความรู้ความเข้าใจกับโลกสมัยใหม่ ประสานเก่ากับใหม่ได้ มีทักษะในส่วนบุคคลที่ดี มีทักษะการบริหารงานที่เป็นระบบ ผมเชื่อว่านายพิธาเป็นแคนดิเดตนายกฯที่เหมาะสมที่สุดในการเลือกตั้งครั้งหน้า” นายชัยธวัชกล่าว
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรที่ยังมีเสียงปรามาสว่าพรรคก้าวไกลก็คงยังเป็นฝ่ายค้านในสภาชุดหน้าอีกแน่ เพราะถูกโดดเดี่ยว นายชัยธวัชกล่าวว่า ตนคิดว่าเราโดดเด่นไม่ใช่โดดเดี่ยว เราจะเป็นพรรครัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้านขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชน
นายชัยธวัช กล่าวว่า ตั้งแต่เลือกตั้งปี 2562 ถึงวันนี้ จะเห็นได้ว่าพรรคก้าวไกล เราตั้งมั่นในฐานะที่เป็นพรรคหลักของการเมืองไทยแล้ว ไม่ใช่พรรคที่อาศัยกระแสวูบวาบ ฉะนั้น เราต้องทำงานหนักขึ้นและสร้างความยอมรับที่จับต้องได้กับประชาชน เราทำงานอย่างมีเป้าหมายชัดเจน แต่อยู่กับความเป็นจริง สร้างความเปลี่ยนแปลง เราเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงสามารถสั่งสมได้ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดได้ สิ่งที่เราเรียนรู้คือ เราเป็นแกะดำจริงๆในการเมืองไทย ซึ่งตอกย้ำในสิ่งที่เราคิดมันถูก ถ้าอยากให้การเมืองมีการเปลี่ยนแปลง ต้องกล้าทำอะไรแบบใหม่ๆ และแตกต่างออกไปจากเดิม
“ยอมรับว่าฐานเสียงสำคัญของเรา เอนมาที่คนรุ่นใหม่ แต่คนรุ่นใหม่ไม่ใช่ของตายของใคร คนรุ่นใหม่มีความคิดทางการเมืองที่ไม่ได้ความจงรักภักดีต่อใครแบบไม่มีเหตุผล ถ้านักการเมืองหรือพรรคไม่ดี เขาก็พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ แต่ขณะเดียวกันเราก็ต้องทำงานกับคนรุ่นอื่นด้วย เราต้องเป็นพรรคของคนทุกรุ่น มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะชนะด้วยเสียงของคนรุ่นใหม่เท่านั้น เรายังต้องการการทำงานที่ตอบโจทย์กับคนทุกวัย”
เมื่อถามความสัมพันธ์ระหว่างพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้าเป็นอย่างไรบ้าง ยังมีเป้าหมายร่วมกันหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรายังเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ยังมีความสัมพันธ์ ความคิด ความหวัง ความฝันเหมือนเดิม
ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคก้าวไกลไม่ลงรอยกับนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้านั้น อาจเกิดจากความเข้าใจที่เกิดขึ้นจากการที่นายปิยบุตร เขียนหรือแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล การมีความเห็นที่แตกต่างกันบ้างเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้าไม่เห็นต่างกันเลย มันก็ไม่ใช่กัลยาณมิตร ยืนยันว่าพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้ายังทำงานร่วมกันได้